วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ละคร เสาร์ ๕


บทประพันธ์ ดาเรศร์
บทโทรทัศน์ นอร์แมน วีรธรรม
กำกับการแสดง ฉลอง ภักดีวิจิตร
ออกอากาศทุก วันจันทร์- อังคาร 20.25 น. ช่อง 7 สี

เรื่องย่อ
ก่อนที่เด็กชายทั้ง 5 คน ซึ่งเกิดในวันเดียวกัน คือ วันเสาร์ที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 จะมาอยู่ในความอุปการะของ อธิบดีอภิชัย (พัฒนา โต๊ะชาลี) เด็กทั้งหมดได้เข้าพิธีรับพระ และรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพระประจำตัวคนละองค์จากพระผู้ใหญ่ เพื่อเสริมบารมีให้อยู่ยงคงกระพันธ์ นอกจากเด็กทั้ง 5 จะถูกส่งไปเรียน และฝึกวิชาป้องกันตัวเพื่อปกป้องบ้านเมืองแล้ว ทุกคนยังมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันออกไป

เดี่ยว สมเด็จ (รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง) มีประสาทหูที่ยอดเยี่ยม สามารถได้ยินเสียงต่างๆ ในระยะไกล เทอด ยอดธง (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) สามารถกลั้นลมหายใจแล้วหายตัวได้ ดอน ท่ากระดาน (อานัส ฬาพานิช) สามารถใช้สมาธิมองเห็นสิ่งต่างๆ ในรัศมีที่เกิดเหตุ ยอด นางพญา (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) สามารถเดินผ่านสิ่งกีดขวาง และกำแพงได้ กริ่ง คลองตะเคียน (พาทิศ พิสิฐกุล) สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนสายตามองไม่เห็น และปลอมตัวเป็นคนอื่นได้

เมื่อประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนจากผู้ก่อการร้าย อธิบดีอภิชัย จึงใช้ทีมเสาร์ ๕ ช่วยติดตามหาคนร้ายกลุ่มจาร์กา ซึ่งปล้นระเบิดเชื้อโรคเคมีจากห้องทดลองในยุโรปมาซ่อนไว้ในประเทศไทย เพื่อขู่เรียกเงินจากประเทศแถบเอเชียอย่างมหาศาล ถ้าไม่ได้จะระเบิดเชื้อโรคเคมีภายใน 15 วัน และยังต้องช่วยหาหน่วยพิเศษหน่วยแรกที่หายตัวไปด้วย โดยมี พ.อ.เชษฐ คอยดูแลภารกิจนี้ นอกจากทีมเสาร์๕ จะต้องไปรับภารกิจที่หนักอึ้งแล้ว ยังมีแพทย์หญิง บุษกร หรือ นุ่น (ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม) ลูกสาวของอธิบดีอภิชัยซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านเชื้อโรคเคมีไปปฏิบัติการนี้ด้วย เพื่อเข้าไปทำลายเชื้อโรคเคมีให้หมดสภาพในทันที

ทั้งหมดต้องปลอมตัวเป็นอาชญากรหนีกฎหมายด้วยการกระโดดร่มลงที่จุดนัดหมาย โดยมี แตน หรือ ดวงกมล (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) หน่วยจู่โจมที่ปลอมตัวเป็นหลานสาวของสัปเหร่อแต้ม หรือ พ.อ.เติมพงษ์ (กรุง ศรีวิไล) เป็นคนนำทางพาทุกคนไปที่กระท่อม ซึ่งเป็นจุดนัดหมายของกลุ่มรวมทั้ง ชลดา (กวินตรา โพธิจักร) น้องสาว พ.อ.เชษฐ ซึ่งเป็นหน่วยพิเศษด้วย เสาร์ ๕ กระจายค้นหาข้อมูลโดย เทอด กับ ชลดา และ ยอด กับ แตน ต้องปลอมเป็นสามีภรรยากัน เพื่อไปอยู่ที่หมู่บ้านเสือหมอบ ซึ่งมี เจ้าพ่ออินทร์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ดูแล

ส่วน เดี่ยว กับ บุษกร ปลอมเป็นสามีภรรยากันไปสืบหาข้อมูลที่หมู่บ้านเขากระบือ ซึ่งมี เสือสนธิ์ (ฤทธิ์ ลือชา) ดูแลอยู่ โดยได้ ดอน เดินทางไปด้วย ส่วน กริ่ง คอยหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าเพื่อประสานงานกับทุกคนในสองหมู่บ้าน โดยมี แคน (กัญจน์ ภักดีวิจิตร) หนุ่มชาวป่าที่ทุกคนในหมู่บ้านมองว่าเป็นคนบ้าคอยให้ความช่วยเหลือ และนำทาง นอกจากเสือสนธิ์จะมี เสือวงศ์ (อมต อินทรานนท์) เป็นสมุนคู่ใจแล้วยังมี มาเรีย (มาริสา อานิต้า) สาวนักฆ่าลูกครึ่ง ซึ่งมาในฐานะหัวหน้าที่จาร์กาส่งให้มาสังเกตการณ์คอยช่วยเหลือเสือสนธิ์ด้วย และมาเรีย ขออาสาเสือสนธิ์คอยจับผิดเดี่ยว ดอน และ บุษบา เพราะแท้จริงแล้ว มาเรีย คือ ตำรวจสากลเข้ามาสืบเรื่องราว ส่วน ดอน ก็คอยจับตาดู มาเรีย เช่นกัน

ฟาจง (ปวารา อภิพูลลาภ) นักฆ่าสาวซึ่งมีความสนิทสนมกับนายใหญ่ของจาร์กา ได้ให้ เมฟู (ชูชัย บุศราคัมวงศ์) อดีตนินจาญี่ปุ่น และ ยาโต้ (ชาลี กรรณสูต) ลูกน้องคนสนิทฝีมือดีเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยของสองหมู่บ้านพร้อมกับ ฟานิโน่ (ฌอน) ชาวยุโรปเพราะได้ข่าวว่าสายลับสากลบุกเข้ามาในทันที จึงทำให้พวกเสาร์ ๕ ต้องแกล้งทะเลาะกันเองเพื่อไม่ให้ใครจับได้ เดี่ยว ดอน และบุษกร โชว์ฝีมือได้ดีจนเสือสนธิ์ไว้ใจมากขึ้น ในขณะที่ กริ่ง ได้ไปช่วยเหลือ ยูกิ (ปริยานุช อาสนจินดา) นินจาสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นรอดพ้นจากการถูก เมฟู ทำร้ายได้ทัน ยูกิ จึงกลับใจมาช่วยเสาร์ ๕ และพวกทำงานเพื่อปราบปรามเหล่าร้าย เพราะหักหลังองค์กรไปทำงานในสิ่งที่ไม่ดี และเธอไม่เห็นด้วย

ทางด้าน ทอด ชลดา ยอด และแตน ยังไม่ได้เบาะแสเพิ่มจนวันหนึ่งได้ไปช่วยเหลือ ต่อ (บิลลี่ ผีน่ารัก) ชายร่างเตี้ยจากกลุ่มนักเลง ต่อจึงอาสาจะช่วยหาข่าวให้เพราะได้ข้อมูลว่ารังของจาร์กา อยู่ในป่าลึก เทอด กับ ยอด พยายามแสดงฝีมือเพื่อดึงดูดความสนใจของจาร์กา เพื่อจะได้ไปถึงรังอย่างปลอดภัย ในขณะที่ เดี่ยว กับ ดอน ก็หาทางไปเช่นกัน โดยมี กริ่ง กับ ยูกิ คอยประสานงานกับทุกคน เสือสนธิ์โกรธมากเมื่อรู้ว่ามีคนในหมู่บ้านทรยศเพื่อไม่ให้แผนทั้งหมดเสีย ดอน จึงแกล้งหนีไปเพื่อให้ เดี่ยว กับ บุษกร พ้นข้อสงสัย มาเรีย จึงขออาสาตามล่าดอนด้วยตัวเอง แต่เสือวงศ์ก็ให้ลูกน้องตามล่า มาเรีย กับ ดอน เช่นกัน

จาร์กา ถูกผู้ก่อการร้ายจากหลายกลุ่มกดดัน เพราะอยากได้เชื้อโรคเคมี จาร์กาจึงให้เสือสนธิ์ และเจ้าพ่ออินทร์รวมกำลังกันกวาดล้าง เพราะทั้งสองคนต่างได้รับเงินสนับสนุนจากจาร์กา เพราะเหตุนี้จึงทำให้กลุ่มเสาร์ ๕ ได้เจอกันยกเว้นดอน แต่ทุกคนก็เริ่มสบายใจเมื่อเดี่ยวบอกว่ามาเรียเป็นตำรวจสากล จากการช่วยกันหาข้อมูลทุกคนจึงรู้ว่า หัวหน้าใหญ่ของจาร์กาคือ บันลือ ตระกูลซือ (พงศนารถ วินศิริ) อดีตนักธุรกิจที่หนีการจับกุมด้วยข้อหาโกงสถาบันการเงิน บันลือจึงคิดการใหญ่เพื่อสร้างความร่ำรวยด้วยการใช้เชื้อโรคเคมีเป็นเครื่องมือ ยาข่าน หัวหน้าผู้ก่อการร้ายจากตะวันออกกลางส่งสมุนมาขโมยข้อมูล และเส้นทางไปรังจาร์กา แต่ถูกดอน กริ่ง มาเรีย และยูกิ จัดการเอาไว้ได้ กริ่งจึงปลอมตัวเป็นสมุนของยาโคเพื่อยืมมือยาโคจัดการจาร์กา

เหลือเวลาอีก 2 วัน จะครบกำหนดเสาร์ ๕ และทุกคนตกลงกันว่าจะส่งข่าวไปให้หน่วยพิเศษรู้เพื่อส่งกำลังมาช่วย ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปทุกคนสามารถบุกเข้าไปถึงรังของจาร์กา โดยที่บุษกรทำลายเชื้อโรคเคมีได้สำเร็จ บันลือคิดหนีจึงถูกยาโคฆ่าตาย สุดท้ายกลุ่มคนร้ายถูกจับทั้งหมด ยกเว้นเจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์ เพราะทั้งสองกลับใจมาช่วยเหลือทางการกำจัดศัตรูของแผ่นดิน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเพื่อชาติแล้วเสาร์ ๕ ขอทำภารกิจของหัวใจให้สมหวังในเรื่องความรักกับผู้หญิงที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขามาโดยตลอดอย่างมีความสุขบ้าง


นักแสดง
วัชรบูล ลี้สุวรรณ >>> เทอด ยอดธง
รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง >>> เดี่ยว สมเด็จ
อานัส ฬาพานิช >>> ดอน ท่ากระดาน
รพีภัทร เอกพันธ์กุล >>> ยอด นางพญา
พาทิศ พิสิฐกุล >>> กริ่ง คลองตะเดียน
ปริยานุช อาสนจินดา >>> ยูกิ
มาริสา อานิต้า >>> มาเรีย
กัญจน์ ภักดีวิจิตร >>> แคน
โอลิเวอร์ บีเวอร์ >>> เจ้าพ่ออินทร์
กรุง ศรีวิไล >>> สัปเหร่แต้ม
พงศนาถ วินศิริ >>> นายบันลือ
ชาลี กรรณสูต >>> ยาโต้
กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า >>> ดวงกมล, แตน
กวินตรา โพธิจักร >>> ชลดา
ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม >>> บุษกร, นุ่น
ฤทธิ์ ลือชา >>> เสือสนธิ์
พัฒนา โต๊ะชาลี >>> อธิบดีอภิชัย
ชูชัย บุศราคัมวงศ์ >>> เมฟู
บิลลี่ ผีน่ารัก >>> ต่อ
ฌอน >>> ฟานิโน
ปวารา อภิพูนลาภ >>> ฟาจง

ข้อมูลจาก : ch7.com
[Read More...]

ละคร สกุลกา


บทประพันธ์ บุษยมาส
บทโทรทัศน์ ทีมเอ็กแซ็กท์
กำกับการแสดง สิริวิทย์ อุปการ
ออกอากาศทุกวัน จันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ช่อง 5

เรื่องย่อ
ดวง(รัชนีกร พันธ์มณี) สาวใช้ในบ้านเศรษฐีตระกูลกาญจนโรจน์ แอบมีความสัมพันธ์กับรัตน์(อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) ลูกชายเจ้าของบ้านจนตั้งท้อง พอแม่ของรัตน์รู้จึงบังคับให้ดวงทำแท้ง ดวงจึงต้องหนีมาอาศัยอยู่กับสุดา(ณหทัย พิจิตรา) พี่สาวที่บ้านเช่าในสลัม สุดามีอาชีพรับจ้างซักรีดมีรายได้เดือนละไม่กี่พัน เมื่อดาว(วรรณรท สนธิไชย) ลูกสาวของดวงเกิดมา ก็ป่วยหนักต้องใช้เงินมากมายในการรักษา ดวงไม่มีเงินจึงจำต้องขายตัวหาเงินมารักษาลูก และตั้งแต่นั้นเธอก็ทำงานเป็นหญิงบริการเรื่อยมา เพื่อเก็บเงินส่งเสียให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ แต่ดวงก็ละอายใจเกินกว่าจะให้ลูกเรียกเธอว่าแม่ จึงขอร้องให้สุดารับดาวเป็นลูกแทน จนกระทั่ง 17 ปีผ่านไป ดาวเติบโตขึ้นมาในโรงเรียนคอนแวนต์ เป็นเด็กสาวที่บริสุทธิ์งดงาม และเข้าใจว่าเธอเป็นลูกสาวของสุดา และดวงเป็นเพียงน้าสาว

ภควดี หรือ ป้อม(วรนันท์จันทรัศมี) เพื่อนสนิทของดาว อยากจับคู่ดาวกับพี่ชาย ภาติยะ หรือ ปุ๊(ชัยพล พูพาร์ต) จึงหาทางให้ทั้งสองมาเจอกัน ปุ๊หลงรักดาวหัวปักหัวปำทันที ขณะที่ดาวเองก็ได้เจอกับผู้ปกครองนักเรียนคนหนึ่งที่เธอถูกชะตา โดยไม่รู้เลยว่าผู้ปกครองคนนั้นคือ พงศกร(ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) หรือ อาน้อง ของป้อมและปุ๊ น้องเองก็หลงใหลในความน่ารักใสซื่อของเธอ ซึ่งเขาเองไม่รู้เลยว่าเด็กคนนั้นคือดาว คนที่หลานชายเขาหลงนักหลงหนา จนทำให้เขารู้สึกเกลียดชังเด็กที่ชื่อดาว ความสัมพันธ์ของดาวและน้องสานต่อกันเรื่อยมา โดยทั้งสองไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร จนกระทั่งวันงานโรงเรียนที่ดาวได้แสดงละครเป็นจูเลียต น้องซื้อดอกไม้ช่องามหวังจะมอบให้ดาว แต่คนที่ตัดหน้าชิงมอบดอกไม้ให้ก่อนกลับเป็นปุ๊ ทำให้น้องเข้าใจเดี๋ยวนั้นเองว่า ดาวเป็นเด็กเจ้าเล่ห์ที่ชอบหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายไปทั่ว และแกล้งมาปั่นหัวให้เขาหลงรัก ตั้งแต่นั้นน้องจึงทำเย็นชาบึ้งตึงกับดาว จนดาวแอบร้องไห้เสียใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของน้อง

ปัจจุบันรัตน์เป็นอธิบดีกระทรวงการต่างประเทศ เขาแต่งงานกับวลัย(สิรินยา บิชอฟ) มานานแต่ไม่มีลูก แต่ในวันงานโรงเรียน รัตน์กับวลัยได้เห็นดาวแสดงบทจูเลียต ทั้งสองรู้สึกเอ็นดูถึงขั้นอยากจะอุปการะดาว ยังความอิจฉาให้กับวารี(ชนานา นุตาคม) พี่สาวแท้ๆ ของวลัย ที่หวังว่าวลัยจะยกสมบัติมากมายให้กับรัตนาวดี หรือ วดี(อลิชา ไล่ศัตรูไกล) ลูกสาว วดีเป็นแฟนกับน้องมาหลายปี แต่ก็ยังไม่มีวี่แววจะได้แต่งงาน เพราะน้องเป็นห่วงหลานๆ ยังไม่อยากสร้างครอบครัวของตัวเอง

แต่แล้ววันหนึ่ง ดวงลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้านเพราะรีบออกไปทำงาน ดาวเป็นห่วงจึงตามเอาไปให้ที่ทำงานของดวง ทำให้ดาวได้รู้ความจริงว่าดวงทำงานเป็นหญิงขายบริการในคลับของไพโรจน์(บริบูรณ์ จันทร์เรือง) ดาวเสียใจมากเพราะคิดมาตลอดว่าดวงทำงานเป็นพนักงานบัญชี ซ้ำร้ายยังโดนไพโรจน์เข้าใจผิดว่าดาวเป็นเด็กมาใหม่ จึงใช้กำลังปลุกปล้ำ ดาวดิ้นสู้สุดชีวิตจนฟาดหัวไพโรจน์เลือดอาบ ไพโรจน์โกรธมากไล่ล่าดาวจนกระทั่งบังเอิญมาเจอกับปุ๊ ทั้งสองต่อสู้กันจนปืนของไพโรจน์ลั่นโดนตัวเอง ปุ๊จึงพาดาวหนีรอดไปได้ วันรุ่งขึ้นปุ๊กับไพโรจน์ลงข่าวหน้าหนึ่งว่ามีเรื่องแย่งผู้หญิงกัน ทำให้น้องยิ่งโกรธที่ดาวทำให้ปุ๊มีเรื่องเสื่อมเสีย ส่วนไพโรจน์ก็แค้นจัดที่เด็กเมื่อวานซืนอย่างปุ๊ทำให้เขาเสียหน้า พอออกจากโรงพยาบาล ไพโรจน์จึงตรงไปหาดวงเพื่อถามหาที่อยู่ของปุ๊ และยังฝากบอกให้ปุ๊มากราบขอโทษเขาภายในสามวัน ไม่อย่างนั้นทุกคนจะต้องเสียใจ และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

คืนหนึ่งระหว่างที่ปุ๊กำลังจะกลับบ้าน ก็โดนคนของไพโรจน์อุ้มไปซ้อมและหวังจะฆ่าให้ตาย แต่ปุ๊ก็หนีเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ด้านน้องที่ออกตามหาปุ๊จ้าละหวั่น พอรู้ว่าปุ๊รอดจากเงื้อมือไพโรจน์มาได้ ก็ตัดสินใจจะส่งปุ๊ไปเมืองนอกเพื่อตัดปัญหา แต่ปุ๊ไม่ยอมเพราะเป็นห่วงดาว น้องเลยขอให้ดาวไปพูดเกลี้ยกล่อมให้ พอดาวออกปากพูด ปุ๊ก็ยื่นคำขาดว่าดาวต้องหมั้นและไปอยู่เมืองนอกด้วยกัน น้องตกใจมากยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง ดาวเลยเข้าใจว่าน้องเห็นเธอต่ำต้อยไม่คู่ควร จึงน้อยใจกลับบ้านไป แต่พอดาวมาถึงบ้าน กลับพบว่าไพโรจน์จับดวงกับสุดามัดไว้ และกำลังรอดาวกลับมาเพื่อจะขืนใจ แต่โชคดีที่ต้น(อาณัตพล ศิริชุมแสง) เพื่อนบ้านมาช่วยไว้ได้ ทั้งสองต่อสู้กันจนบ้านเกิดไฟไหม้ ไพโรจน์จึงขังพวกดาวไว้ในบ้านหวังให้ตาย

แต่ในที่สุดต้นก็ช่วยทุกคนออกมาได้ พอปุ๊กับป้อมรู้ข่าวว่าบ้านดาวไฟไหม้และดาวได้รับบาดเจ็บ จึงรีบไปหาดาว น้องอดเป็นห่วงไม่ได้จึงตามไปด้วย ในที่สุดน้องก็พาดาว ดวง และสุดามาตรวจรักษาอย่างดีที่โรงพยาบาลเอกชน และก็ทำให้สุดาได้รู้ว่ากำลังเป็นมะเร็ง ดวงเศร้าโศกเสียใจในชะตากรรมของตัวเองมาก พอเห็นภาพที่รัตน์กับวลัยมาเยี่ยมดาวด้วยความรักและปรารถนาดี ดวงจึงตัดสินใจยกดาวให้กับรัตน์พ่อที่แท้จริง ด้วยหวังว่าดาวจะมีชีวิตที่ดีกว่าจะต้องมาลำบากกับเธอ เมื่อดาวรู้ว่าแม่กับน้าดวงจะยกเธอให้เป็นลูกบุญธรรมของอธิบดีรัตน์ ดาวก็ไม่ยอม ดวงจึงโกหกว่าขายเธอให้กับอธิบดีรัตน์ด้วยเงินห้าแสน ดาวเสียใจมากแต่ก็ต้องจำยอม ส่วนต้นที่รู้เรื่องทั้งหมด ก็ต้องกล้ำกลืนความจริงนี้ไว้ไม่สามารถบอกกับดาวได้


รายชื่อนักแสดง
ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ รับบทเป็น พงศกร/ อาน้อง
วรรณรท สนธิไชย รับบทเป็น ดาว
อลิชา ไล่ศัตรูไกล รับบทเป็น รัตนาวดี
อาณัตพล ศิริชุมแสง รับบทเป็น ต้น
ชัยพล พูพาร์ต รับบทเป็น ภาติยะ/ ปุ๊
รัชนีกร พันธ์มณี รับบทเป็น ดวง
สิรินยา บิชอฟ รับบทเป็น วลัย
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ รับบทเป็น รัตน์
ณหทัย พิจิตรา รับบทเป็น สุดา
ชนานา นุตาคม รับบทเป็น วารี
บริบูรณ์ จันทร์เรือง รับบทเป็น ไพโรจน์
ภัทรา อธิราษฎร์กุล รับบทเป็น เหมียว
วรนันท์ จันทรัศมี รับบทเป็น ภควดี/ ป้อม
จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม รับบทเป็น น้าเผือก

ข้อมูลจาก : tv5.co.th
[Read More...]

ละคร หยกลายเมฆ

ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
กำกับการแสดง : โชติรัตน์ รักเริ่มวงษ์
บทประพันธ์ : โสภี พรรณราย
บทโทรทัศน์ : วิสุทธิชัย บุณยะการญจน
เวลาออกอากาศ : ทุกวัน จันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เริ่ม 1 มิถุนายน นี้

เรื่องย่อ
เรื่องราวอดีตรัก...อันขมขื่นของผู้ให้กำเนิด ทำให้เธอต้องลัดฟ้า...ไปไกลถึงดินแดนมังกร ถิ่นที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งทางธุรกิจ...ความริษยา...และมนต์ขลังของความรัก วังวนของประวัติศาสตร์ กำลังจะเกิดซ้ำรอยเก่าขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับดนตรีแห่ง "ความรักบทใหม่" ก็เริ่มบรรเลงเช่นกัน ทริยา เอกธำรงวรกุล บุตรสาวคนโตของ คุณชูวิทย์ และคุณ จันทนา นักธุรกิจอัญมณีชื่อดัง ทริยา เป็นหญิงสาวสวย รูปร่างสมส่วน เป็นคนจริงจังและไม่ยอมใคร ส่วน จีรนันท์ น้องสาวคนเดียวของเธอนั้น แตกต่างจากทริยาทั้งรูปร่างหน้าตา นิสัยใจคอ แต่ก็ไม่ทำให้ความรักระหว่างพี่น้องต้องเปลี่ยนแปลง ทริยารักและปกป้องน้องสาวคนนี้เสมอมา ทริยา มี โสภณ เป็นคนรัก และมีโครงการจะแต่งงานกัน แต่ทั้งทริยาและโสภณต่างก็ดูไม่ออกว่า จีรนันท์แอบหลงรักว่าที่พี่เขย แต่เธอก็ไม่ต้องการแย่งชิงคนรักของพี่สาว

วันหนึ่ง ชูวิทย์ สั่งให้ ทริยา เดินทางไปฮ่องกงเพื่อพบกับ ฮุ่ยซัน มารดาบังเกิดเกล้าของเธอ ที่กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทริยา รู้สึกสับสนมากแต่ก็ยินยอมเดินทางไปแต่โดยดี แม้จะยังไม่รู้หนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร มีเพียงหยกลายเมฆสมบัติที่มารดามอบไว้ให้บิดาเธอเท่านั้นเป็นเพื่อนเดินทาง

ที่สนามบินฮ่องกง ทริยา ได้พบกับ มีมี่ น้องสาวของแม่เธอ มีมี่กอดหลานด้วยความรักและคิดถึง และรีบพาทริยาไปโรงพยาบาลทันที ทริยาโผเข้ากอดมารดา จากนั้นฮุ่ยซันก็สิ้นลมในเวลาต่อมา ทริยาจึงต้องอยู่จัดการศพของมารดาให้เรียบร้อยก่อน และได้มีโอกาสความรู้จักกับครอบครัวของมารดาที่ฮ่องกง เถ้าแก่หลอ คือคุณตาของเธอ เจ้าพ่อธุรกิจที่ยิ่งใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง มีมี่มีคนรักอยู่แล้วคือ คังจิน แต่เถ้าแก่หลอไม่เห็นด้วยหากมีมี่จะลงเอยกับคังจินจึงต้องคบกับคังจินไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการแต่งงาน น้าจิงจิง น้องสาวคนถัดจากมารดาของเธอ เป็นคนขี้อิจฉาและหวังจะครอบครองธุรกิจทั้งหมดแทนพี่สาว จิงจิงแต่งงานใหม่กับ หม่าเจา พ่อหม้ายลูกติดคือ ปีเตอร์ ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับทริยา ปีเตอร์เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานและหัวสูง

คุณจาง ซึ่งเป็นอดีตคนรักเก่าของมารดา ทันที่ที่ ทริยา เห็นหน้าคุณจาง เธอรู้สึกไม่ถูกชะตากับหนุ่มใหญ่คนนี้เลย เนื่องจากเขาคือศัตรูหัวใจของบิดาเธอ ด้านคุณจาง มีภรรยาที่พิการชื่อ ซู่หลิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทฮุ่ยซันอีกด้วย

ปีเตอร์ มีแฟนสาวที่กำลังตั้งท้องอ่อนชื่อ เพ็กกี้ แต่เมื่อเขาได้พบกับ ทริยา เขากลับสนใจในรูปร่างหน้าตาและสมบัติของทริยา ปีเตอร์เริ่มตามติดทริยาตลอดเวลา ทำให้ เพ็กกี้ เริ่มไม่พอใจจึงนำเรื่องไปปรึกษา พอล พี่ชายของเธอ ซึ่งเป็นนักออกแบบจิวเวลลี่หนุ่มฝีมือชั้นเยี่ยมของฮ่องกง

พอลจึงคิดแผนการใกล้ชิดกับทริยา เพื่อกันไม่ให้ปีเตอร์มายุ่งกับทริยา ทำให้ แอนนา แฟนสาวของพอลไม่พอใจ ทางด้านทริยาเธอตั้งใจว่าเมื่อเสร็จงานศพเธอจะกลับเมืองไทยทันที แต่ มีมี่ คัดค้านไว้ เพราะเธอรู้ดีว่าเถ้าแก่หลอต้องการให้ทริยาเป็นผู้รับช่วงต่อจากฮุ่ยซัน ทริยาจึงมีปากเสียงกับเถ้าแก่หลอ จนเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน แต่เขาไม่ยอมรับการผ่าตัดหากทริยายังยืนยันจะกลับเมืองไทย ทำให้เธอไม่สามารถกลับเมืองไทยได้

ทางด้านเมืองไทย จีรนันท์ เริ่มสนิทสนมกับ โสภณมากยิ่งขึ้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจีรนันท์ต้องไปงานเลี้ยงกับโสภณ คืนนั้นโสภณเมาไม่ได้สติ และจีรนันท์ก็ตกเป็นของโสภณด้วยความเต็มใจ จีรนันท์เริ่มมีอาการแพ้ท้องจนไม่สามารถปิดบังได้อีก โสภณยอมรับผิดชอบทุกอย่าง คุณชูวิทย์โทรศัพท์ทางไกลเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ ทริยาฟัง เธอตกใจมากและขอเวลาปรับสภาพจิตใจ เธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้พอลฟัง เธอเริ่มค้นพบความรู้สึกที่แท้จริงว่าเธอรักพอลโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปทริยาได้รับเลือกให้เป็นผู้ออกแบบเพชรหยดน้ำทำเป็นเข็มกลัดถวายแด่พระมเหสีของเจ้าชายจากเมืองวาซีเลีย ต่อมามีงานใหญ่ประจำปีของบริษัทอัญมณียักษ์สองบริษัท ของคุณจางและเถ้าแก่หลอ ในงานทริยาบังเอิญได้เป็นนางแบบเดินอัญมณีชิ้นเด่นที่สุดในงาน ทำให้ได้รับเสียงปรมมือดังกึกก้อง ทำให้ได้รับการกล่าวถึงและยอดขายก็พุ่งพรวด คุณจางรู้สึกแค้นใจ จึงหาวิธีเล่นงาน โดยว่าจ้าง เจนนี่ พนังงานในบริษัทซึ่งเป็นคู่แข่งกับทริยาไปขโมยเข็มกลัดที่จะต้องถวายเจ้าชาย ทุกคนต่างก็พุ่งประเด็นไปที่คุณจาง มีมี่จึงตัดสินใจนำจดหมายที่ฮุ่ยซันทิ้งไว้ก่อนตายให้คุณจาง แท้จริงแล้วทริยาคือบุตรสาวของเขา คุณจางรู้สึกตกใจมากแต่ในขณะเดียวกันก็ยินดีที่ได้ตัวบุตรสาวเพียงคนเดียว ซุ่หลิงเสียใจแทบคลั่งเธอสั่งให้ ลู่ไห่ น้องชายซึ่งเป็นอดีตนักเลงไปตามเก็บทริยา กระสุนนัดแรกโดนเข้าที่ไหล่ของทริยา ส่วนนัดที่สองพอลกระโดดรับกระสุนแทน

ต่อมาลู่ไห่ถูกจับ ส่วนซู่หลินตัดสินใจเลิกกับคุณจาง ทริยารู้สึกตัวเธอเห็นทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตา เธอให้อภัยแอนนา โสภณ และจีรนันท์ และด้วยเหตุนี้ทำให้เถ้าแก่หลอเห็นใจ มีมี่ และ คังจิน จึงให้ทั้งสองแต่งานกัน ทริยาไปเยี่ยมพอลที่โรงพยาบาล เขาอาการดีขึ้น ทั้งสองสวมกอดกัน และสัญญาว่าจะอยู่เคียงคู่กันตลอดไป มรสุมชีวิตได้ผ่านพ้นไป นับจากนี้เธอจะใช้ชีวิตเคียงคู่กับพอลชายหนุ่มคนเดียวที่เธอรักบนแผ่นดินแม่

รายชื่อนักแสดง

พัชฏะ นามปาน รับบท พอล
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ รับบท ทริยา
รวิชญ์ เทิดวงศ์ รับบท แอนโทนี่ จาง
ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ รับบท ซู่หลิง
ศุภมร โคร์นิน รับบท โสภณ
ซาร่า เล็กจ์ รับบท จีรนันท์
นิรุตติ์ ศิริจรรยา รับบท เถ้าแก่หลอ
วริษฐ์ ทิพโกมุท รับบท ปีเตอร์
พรรษชล สุปรีย์ รับบท เพ็กกี้
อภิษฎา เครือคงคา รับบท แอนนา
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบท มีมี่
พรนภา เทพทินกร รับบท จิงจิง
สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล รับบท คังจิน
วรวุฒิ นิยมทรัพย์ รับบท ชูวิทย์ (แจ๊ค)
สุปราณี เจริณผล รับบท จันทนา
ภุชงค์ โยธาพิทักษ์ รับบท หม่าเจา
ธรากร สุขสมเลิศ รับบท ลู่ไห่
วรพล จันทร์ส่องแสง รับบท แอนดี้
กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ รับบท ฮุ่ยวัน (นักแสดงรับเชิญ)

ข้อมูลจาก : thaitv3.com
[Read More...]

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ละคร ก๊วนกามเทพ


บทละครโทรทัศน์ ปณธี - ภควดี
กำกับการแสดง วีระชัย รุ่งเรือง
ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ผู้จัด จันทร์จิรา จูแจ้ง
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.15 น.
ทางช่อง 3 ต่อ เทพบุตรชุดวิน

เรื่องย่อ
ละครชีวิตเรื่องราวความรักที่ไม่ลงตัวระหว่างสาวหัวนอกเปรี้ยวจี๊ดกับชายหนุ่มผู้เคร่งครัดในการดำเนินชีวิตดวงดาว พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อผลักดัน เกษรา บุตรสาวคนเดียวของตนให้เป็นสะใภ้ของ ตระกูลอภิบูรณา หลังจากที่ตัวเองเคยพลาดหวังมาแล้วในอดีต ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงเกษราสาวฝรั่งจ๋าที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกให้เป็น กุลสตรีไทยที่เพียบพร้อมก็เริ่มขึ้น โดยมีอดีตครูมืออาชีพ เพลินตา สมพร และ นวลน้อย คอยช่วยเหลือ
ในที่สุดหญิงสาวก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคเข้าไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูร ณาได้ โดยแต่งงานกับ วาทิต ชายหนุ่มที่ดำเนินชีวิตอยู่ในกรอบอย่างเคร่งครัด ท่ามกลางความไม่พอใจของ เรือนทอง ผู้เป็นยายของเกษรา และ ไพลิน ผู้เป็นย่าของวาทิต รวมถึงตัววาทิตเองที่ยอมแต่งงานกับเกษราเพียงเพื่อพยุงฐานะของอภิบูรณาไว้ เกษราจึงเป็นเพียงสะใภ้แต่ในนามโดยที่เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับวาทิตฉันท์สามี ภรรยาทั่วไป
ด้วยอุปนิสัยที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงของเกษราและวาทิต ทำให้ทั้งคู่มีเรื่องขัดแย้งกันอยู่บ่อยครั้งแต่ความใกล้ชิดก็ทำให้คนทั้ง สองเริ่มเห็นคุณค่าของกันและกันจนก่อเกิดเป็นความรัก
ความรักของคนทั้งคู่น่าจะจบลงด้วยดี หาก โรเจอร์ แฟนเก่าของเกษราไม่กลับมาหา ทำให้วาทิตหึงหวงปลุกปล้ำหญิงสาว ความสัมพันธ์ที่ดีของคนทั้งคู่จึงมีอันขาดสะบั้นลง
เรื่องราวความรักของคนทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร เขาทั้งสองจะประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ ติดตามได้ใน “ก๊วนกามเทพ”
ถึงแม้ ดวงดาว บุตรสาวคนโตจาก ตระกูลทรัพย์สถิตย์ จะเคยพลาดหวังจากการเป็นสะใภ้แห่ง อภิบูรณา มาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากที่ ไพลิน แม่ของ รองเมือง ไม่ยอมมาสู่ขอเธอให้กับรองเมืองบุตรชาย แต่กลับไปรับ วารี ลูกผู้ดีเก่า มาเป็นสะใภ้แทน แต่ดวงดาวก็ยังคงรักษาคำมั่นสัญญาที่ ก้องไกร ผู้เป็นสามีเคยบอกยก เกษรา บุตรสาวเพียงคนเดียวให้ไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาตกแต่งกับ วาทิต ลูกชายของรองเมืองและวารีให้ได้ ถึงแม้คุณ เรือนทอง ผู้เป็นยาย ดวงเดือน และ ดวงแก้ว ผู้เป็นน้าของเกษราจะไม่เห็นด้วยกับความเห็นของดวงดาวก็ตาม เพราะยังเจ็บแค้นใจไม่หาย ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม แต่ดวงดาวก็ยังคงยืนยันที่จะให้เกษราพิสูจน์ถึงคุณค่าของหญิงสาวแห่งตระกูล ทรัพย์สถิตย์ให้ได้ ทั้งยังเป็นการรักษาคำมั่นของผู้เป็นสามีอีกด้วย

เรือนทองรู้สึกผิดไม่น้อย ที่ส่งเกษราไปเรียนต่อที่เมืองนอกเสียนาน เพื่อเป็นการถ่วงเวลาไม่อยากให้เกษราแต่งงานกับวาทิต เพราะหลังจากที่เกษราเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส เกษราก็กลายเป็นสาวฝรั่งจ๋า เปรี้ยวจี๊ด ชนิดที่ไม่เหลือความเป็นกุลสตรีไทยเอาไว้เลย ดวงดาวจึงเริ่มปฏิบัติการขั้นแรก ด้วยการหาครูมาอบรมขัดเกลากิริยา

มารยาทของเกษราเสียใหม่ โดยมี เพ็ญแข อดีตครูใหญ่ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของคุณเรือนทอง หลังจากที่โรงเรียนได้ถูกปิดลง รับอาสาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำหน้าที่นี้เอง เพ็ญแขพยายามส่งครูฝีมือดีมาอบรมเกษราแล้วหลายคนด้วยกัน แต่ทุกคนก็ต้องถอยร่นกลับไป ด้วยเพราะทนฤทธิ์เดชของเกษราไม่ไหว สุดท้ายเพ็ญแขจึงต้องดั้นด้นไปตามหาบรรดาครูเพื่อนเก่า ซึ่งแต่ละคนก็มีฝีไม้ลายมือระดับเจ้าของรางวัลกันทั้งนั้น แล้วเธอก็ได้พบกับครู เพลินตา เป็นคนแรก ซึ่งในอดีตเพลินตาเคยพานักเรียนไปกวาดรางวัลการประกวดปรุงและตกแต่งอาหาร ระดับประเทศมาหลายรางวัล แต่ปัจจุบันสาวใหญ่ก็กลายเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่งอยู่ในตลาดโดยมี สายไหม น้องสาวเป็นผู้ช่วยไปเสียแล้ว ครู สมพร ซึ่งเป็นครูสอนวัฒนธรรมไทย และมารยาทที่เคยพาเด็ก ๆ ไปกวาดรางวัลการประกวดมารยาทดีเด่นมาแล้วก็กลายเป็นเจ้าของ ค่ายมวยสมพรยิม สืบทอดกิจการครอบครัวหลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตลง ส่วนครู นวลน้อย อดีตครูสอนนาฏศิลป์ก็กลายเป็นครูสอนหางเครื่องรำซิ่งโชว์ตามคาเฟ่ให้กับ โชค ผู้เป็นหลานชาย เพ็ญแขเริ่มหมดหวังจากเพื่อน ๆ ทั้งสามของเธอ เพราะนอกจากทุกคนจะไม่เหลือคราบความเป็นครูคนเก่าอีกแล้ว แต่ละคนก็แทบจะไม่อยากกลับไปเป็นครูเหมือนดังเดิมอีก มีเพียงค่าตอบแทนที่เพ็ญแขนั้นเสนอเอาไว้ชนิดที่เรียกว่าสูงลิบ เพื่อจูงใจเพื่อน ๆ ให้กลับมาทำงานในหน้าที่เหมือนเดิมเท่านั้นที่ทิ้งไว้ให้ทุกคนคิด แล้วเพ็ญแขก็เดินทางกลับมากรุงเทพฯ ด้วยความหวังที่เลือนราง

รองเมืองตั้งใจที่จะให้วาทิตแต่งงานกับเกษราเหมือนเดิม เพราะนอกจากจะเป็นการรักษาสัญญากับเพื่อนเก่าอย่างก้องไกรแล้ว เขายังสำนึกในบุญคุณในครั้งที่ก้องไกรยังมีชีวิตอยู่ และได้เกื้อกูลช่วยเหลือเขาเรื่องเงินทองจนสามารถมีฐานะอยู่ได้ดีจนถึงทุก วันนี้ เมื่อรองเมืองรู้ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเกษราได้เดินทางกลับมาจากต่าง ประเทศแล้ว เขาจึงไม่รอช้ารีบเชิญเกษรามาทานข้าวที่อภิบูรณาทันทีเพื่อเป็นการดูตัวและ ผูกสัมพันธ์ของคนทั้งสองตระกูลเข้าด้วยกัน แต่ทุกอย่างก็กลับดูเหมือนจะไม่เป็นใจเพราะทั้งไพลินประมุขแห่งอภิบูรณา ซึ่งเป็นผู้ดูแลอภิบูรณาอยู่ขณะนี้ และ รำไพ ผู้เป็นป้าหัวโบราณที่ประชดไพลินด้วยการไม่ทำอะไร นอกจากใช้สมบัติเก่าไปวัน ๆ เพราะไพลินบังคับให้เธอแต่งงานกับคนลวงโลกพ่อของ รุ่งทิวา จนชีวิตครอบครัวของเธอต้องพังทลายลง รพีพรรณ ผู้เป็นอาของวาทิต ซึ่งชอบเข้าสังคมและพูดคุยแต่เรื่องนินทาว่าร้ายชาวบ้านตลอดเวลา ทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ ก็แสดงท่าทีไม่ชอบใจเกษราตั้งแต่แรกเห็น ที่สำคัญเธอไม่อยากให้คนของทรัพย์สถิตย์มาร่วมใช้นามสกุลเดียวกับเธอรวมไป ถึงวาทิตด้วย เพราะนอกจากเกษราจะไม่มีกิริยามารยาทเหมือนกุลสตรีไทยแล้ว เธอยังแต่งตัวเป็นสาวเปรี้ยวจัดชนิดที่ชายหนุ่มทนรับไม่ไหว ผิดกับเขาที่เป็นคนคร่ำเคร่งอยู่ในกฎระเบียบแห่งชีวิต ยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับ กิ่งแก้ว เพื่อนอาจารย์ในมหาวิทยาลัยซึ่งมีความงามพร้อมแล้วเกษราก็ตกรอบแรกไปเลย แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านความหวังที่เกษราจะได้เป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาก็เรือง รองขึ้นมาทันที เมื่อสามอาจารย์เดินทางมาที่ทรัพย์สถิตย์พร้อม ๆ กัน ถึงแม้แต่ละคนจะแสดงท่าทีไม่ลงรอยกันเพราะต่างคนต่างมั่นใจในความเป็นหนึ่ง ของตัวเอง แต่ทุกคนก็เริ่มทำงานด้วยความตั้งใจ แม้จะต้องล่าถอย อ่อนใจไปบ้างในบางครั้ง เมื่อเกษราออกฤทธิ์ทำท่าไม่สนใจเรื่องวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่อาจารย์ทั้งสามสอนให้ จะลุกจะนั่งก็ดูขัดหูขัดตา แถมยังแต่งตัวหวือหวาไปซะทุกอย่าง ซ้ำยังชอบชวนอาจารย์ทั้งสามออกไปท่องราตรีในยามค่ำคืน

เกษราถูกเรียกตัวไปที่อภิบูรณาบ่อยครั้งขึ้น เพื่อทดสอบเรื่องกิริยามารยาท ซึ่งเกษราเองก็แสนจะเบื่อหน่าย ในการที่คุณไพลินจะต้องทานอาหารตำรับชาววังแทบทุกมื้อ ต้องฟังดนตรีไทย บางครั้งก็จะมีทั้งรุ่งทิวาบุตรสาวของรำไพและกิ่งแก้วมาคอยบรรเลงให้ฟัง แถมเธอยังต้องอ่านหนังสือให้คุณย่าไพลินฟังอีก แต่ความน่าเบื่อหน่ายเหล่านี้ก็ค่อย ๆ จืดจางลงเมื่อเกษราได้พบกับ คุณปู่พจน์ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตอยู่ที่เรือนหลังเล็ก เธอมีโอกาสได้พูดคุยกับชายชราด้วยบ่อยครั้ง จนกลายเป็นความผูกพัน เพราะนอกจากวาทิตแล้วสมาชิกในบ้านอภิบูรณาไม่เคยมีใครหันมาสนใจดูแลปู่พจน์ เลย เมื่อวาทิตได้รู้จากผู้เป็นปู่ว่าเกษรามักจะมานั่งเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา ชายหนุ่มจึงเริ่มมองหญิงสาวในทางที่ดีขึ้น ยิ่งเมื่อวันที่เขาเกิดล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน เกษราก็รีบพาเขาไปหาหมอและดูแลปรนนิบัติอย่างดี จึงยิ่งทำให้ชายหนุ่มเห็นความดีและความอ่อนหวานในตัวเกษรามากยิ่งขึ้นไปอีก

ครูทั้งสามต่างก็แข่งกันที่จะสอนให้เกษราเรียนได้ดีที่สุดในวิชา ของตนเอง ถึงแม้บางครั้งจะถูกดวงเดือนกับดวงแก้วคอยขัดขวางการเรียนการสอนอยู่บ้าง เพราะผู้เป็นน้าก็เห็นด้วยกับเรือนทองที่ไม่ต้องการให้หลานสาวตกไปเป็นสะใภ้ ของบ้านอภิบูรณา ทั้ง เพลินตา สมพร และนวลน้อย ต่างก็พยายามที่จะให้ตนเองได้เป็นครูเพียงคนเดียวของเกษราเพื่อที่จะได้เงิน ก้อนโตตามที่เพ็ญแขเคยเสนอให้ไปจัดการหนี้สินของตนเองเกษรารับรู้ถึงปัญหา นี้จึงอาสาที่จะขอเงินพิเศษเพิ่มให้จากเพ็ญแข ทำให้ครูทั้งสามเพิ่มความรักในตัวเกษรามากขึ้นและยอมร่วมมือกันที่จะทำให้ ลูกศิษย์ของตนเองเข้าไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาให้ได้

ในงานเลี้ยงฉลองแซยิดคุณไพลิน เกษรากับอาจารย์ทั้งสามต้องกลายเป็นแม่งานไปโดยปริยาย หลังจากที่รำไพและรพีพรรณวางแผนให้ เอียด แม่บ้านใหญ่และ ล้อม ผู้เป็นหลานสาวลาพักร้อน แล้วแกล้งโทร.ไปปรึกษากับดวงดาวเรื่องงานเลี้ยง ดวงดาวเองก็ได้โอกาสที่จะโชว์ฝีมือของลูกสาวจึงตกปากรับคำให้เกษราเป็นแม่ งานในครั้งนี้ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าเกษราเหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณา
เรือนทองไม่ยอมไปร่วมงานครั้งนี้ และยังยืนยันที่จะไม่ร่วมวงศ์ตระกูลกับอภิบูรณาเหมือนดั่งเดิม เพลินตา สมพร และ นวลน้อย ช่วยกันเนรมิตงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีรุ่งทิวายื่นมือมาช่วยเรื่องงานครัวบ้าง จึงทำให้เธอสนิทสนมกับเกษรามากยิ่งขึ้น กิ่งแก้วแสดงการรำอวยพรเพื่อเป็นของขวัญให้กับไพลิน ซึ่งก็ทำให้คุณย่าชอบใจไม่น้อย วาทิตเองก็พลอยทึ่งในความสามารถของหญิงสาวไปด้วย ส่วนเกษรานั้นเตรียมการรำฉุยฉายเอาไว้ แต่เกิดความผิดพลาดชุดเกิดหายไปอย่างไม่รู้สาเหตุ เธอจึงต้องโชว์จินตลีลาเพลงบัวขาวแทน โดยมีครูทั้งสามช่วยกันร้องเพลงสดให้ แต่เหมือนโชคเข้าข้าง เพราะเพลงบัวขาวคือเพลงโปรดของไพลิน สร้างความประทับใจให้กับหญิงวัยกลางคนไม่น้อย วาทิตเองก็เริ่มทึ่งและพึงใจในตัวของเกษรา มีเพียงแต่กิ่งแก้วเท่านั้นที่ไม่พอใจกับภาพที่หล่อนได้เห็น

งานแต่งงานของเกษรากับวาทิตถูกจัดขึ้นในเวลาต่อมา ทั้ง ๆ ที่ไพลินก็ยังไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นัก วาทิตเองก็ทำไปเพื่อไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็นลูกที่อกตัญญู ดวงดาวมั่นใจว่าลูกสาวของตนเองนั้นจะเป็นสะใภ้ที่ดีได้ เรือนทองมอบที่ดินผืนใหญ่ให้เป็นของขวัญในวันแต่งงาน ซึ่งก็ถึงกับทำให้รำไพและรพีพรรณอิจฉาในความร่ำรวยอย่างแท้จริงของบ้าน ทรัพย์สถิตย์ ส่วนกิ่งแก้วนั้นก็มีความหวังว่าทั้งสองจะต้องหย่าขาดจากกันในเวลาไม่นาน หลังจากที่รำไพและรพีพรรณได้พูดให้ความหวังว่าทั้งสองคนไม่ได้รักกัน ที่วาทิตแต่งงานด้วยเพียงเพื่อต้องการพยุงฐานะของอภิบูรณาไว้เท่านั้น เกษราเองก็เป็นเพียงสะใภ้แต่ในนาม เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับวาทิตฉันท์สามีภรรยาทั่วไป

เกษราขอเวลาในการปรับตัวและทำใจเป็นเวลาสามเดือน เพราะเธอเองก็อึดอัดในความเป็นระเบียบและชีวิตที่อยู่แต่ในกรอบของวาทิต ยังดีที่เธอนั้นมีคุณปู่พจน์เป็นเพื่อนคอยพูดคุยอยู่เสมอ บางครั้งครูทั้งสามก็มาเยี่ยมและขออนุญาตพาหญิงสาวออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าน บ้างทำให้คลายเครียดลงไป ครูทั้งสามก็พลอยหลงใหลในแสงสียามค่ำคืนไปกับเกษราด้วย ไพลินเองก็เริ่มพึงใจกับหลานสะใภ้คนนี้ เพราะทุกครั้งที่เกษราออกไปนอกบ้าน เธอก็จะมีของติดไม้ติดมือกลับมาฝากทุกคนในบ้าน ซึ่งแสดงถึงความมีน้ำใจได้อย่างชัดเจน และความที่เกษรานั้นทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเคร่งเครียดกฎระเบียบเหมือนกับคนในบ้าน ทำให้ทุกอย่างดูผ่อนคลายไปด้วย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น รุ่งทิวาก็จะคอยตักเตือนเกษราเสมอว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควรที่จะปฏิบัติในอภิ บูรณา

ไพลินมีอาการเครียดจัด เมื่อเธอขาดส่งบ้านและที่ดินที่เอาไปจำนองไว้กับธนาคาร ส่วนทรัพย์สินภายในบ้านรองเมืองก็นำออกไปขายจนแทบเกลี้ยง วาทิตเองก็พลอยเงียบขรึมเพราะกังวลไปด้วย มีแต่รำไพที่ขอเดินทางไปต่างประเทศกับบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยอ้างว่าไม่อยากให้ใครรู้ถึงฐานะที่ตกต่ำภายในบ้าน ส่วนรพีพรรณก็มุ่งเอาแต่ออกงานสังคมโดยไม่มองฐานะของตนเอง ทิ้งให้รุ่งทิวาเป็นคนดูแลไพลินเพียงลำพัง เกษรานั้นเข้าใจดีถึงสถานการณ์ทุกอย่าง เพราะเธอแอบได้ยินไพลินพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยบังเอิญ เกษราจึงให้เรือนทองผู้เป็นยายรับซื้อบ้านและที่ดินเอาไว้เมื่อมีเจ้า หน้าที่ธนาคารนำมาเสนอขายกับเพ็ญแข โดยที่คนของอภิบูรณาไม่มีโอกาสได้รับรู้เลย

กิ่งแก้วไม่ละความพยายามเธอยังคงเข้ามาวุ่นวายกับวาทิตอยู่เสมอ จนรุ่งทิวาเองอดเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวจึงตักเตือนวาทิตให้บอกกับกิ่งแก้วว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายเรื่องราวภาย ในบ้านมากนักซึ่งวาทิตเองก็รู้ทุกอย่างดีแต่ก็ไม่อาจจะพูดกับเธอได้ ชายหนุ่มจึงเริ่มเห็นอกเห็นใจเกษรามากยิ่งขึ้น เรือนทองได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินของอภิบูรณาทั้งหมดโดยที่ไม่มีใครในบ้านของ วาทิตรับรู้เลยแม้กระทั่งตัววาทิตเอง ชายหนุ่มมักจะแวะไปเยี่ยมเยือนเรือนทองอยู่เสมอจึงทำให้หญิงวัยกลางคนเริ่ม รักใคร่ในตัวของหลานเขยคนนี้ เรือนทองสั่งให้เพ็ญแขชี้แจงเรื่องธุรกิจตึกแถว ห้องเช่า และที่ดินต่าง ๆ ให้วาทิตรับรู้ แรก ๆ วาทิตนั้นไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่เรือนทองหาทางออกด้วยการเสนอเงินเป็นค่าตอบแทนให้ ทำให้วาทิตสบายใจขึ้น เขาตั้งอกตั้งใจที่จะช่วยเรือนทองดูแลเรื่องทรัพย์สมบัติอย่างดี ซึ่งก็สร้างความพอใจให้กับเรือนทองเป็นอย่างมาก เพราะอย่างน้อยแผนการที่ใช้ลองใจของวาทิตเรื่องการดูแลทรัพย์สินก็ประสบความ สำเร็จไปแล้วหนึ่งอย่าง เรือนทองไม่ห่วงอีกต่อไปหากวันหนึ่งวาทิตจะเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของเธอทั้ง หมด เพราะเขาจัดว่าเป็นเด็กหนุ่มที่มีนิสัยดี ซื่อสัตย์คนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อวาทิตได้มีโอกาสใกล้ชิดกับคนของทรัพย์สถิตย์ เขาก็เริ่มคุ้นเคยสนิทสนมกับทุกคนในบ้านในเวลาเพียงไม่นาน รวมถึงครูทั้งสามของเกษราด้วย ทำให้ชายหนุ่มเริ่มมองเกษราในแง่มุมที่ดีขึ้นมาอีก

ยังไม่ทันที่ความสัมพันธ์ของเกษรากับวาทิตจะดำเนินไปด้วยดี โรเจอร์ คนรักเก่าของเกษราก็เดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส โรเจอร์ตัดพ้อต่อว่าที่เกษราแต่งงานอย่างกะทันหัน และไม่ยอมบอกกับเขาเพราะหญิงสาวเคยให้สัญญากับชายหนุ่มว่าจะให้คำตอบเรื่อง ความรักกับเขาก่อน เกษราให้ความสนิทสนมกับโรเจอร์ด้วยความจริงใจ เพราะครั้งหนึ่งหญิงสาวเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของโรเจอร์ครั้งที่ไปเรียนต่อ ที่เมืองนอก เธอจึงให้โรเจอร์เข้ามาพักอยู่ในบ้านทรัพย์สถิตย์ ระหว่างที่มาเที่ยวเมืองไทย ด้วยความเป็นห่วงครูทั้งสามจึงออกปากตักเตือนด้วยความหวังดีเพราะเกรงว่าเก ษราจะผิดใจกับวาทิต แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับเกษราเป็นอย่างมาก ครูทั้งสามน้อยใจมากจึงถือโอกาสลาเพ็ญแขกลับบ้านโดยทั้งสามให้เหตุผลว่าหมด หน้าที่ของพวกเธอแล้ว เกษราพาโรเจอร์ไปทานข้าวที่บ้านอภิบูรณาและได้พบกับกิ่งแก้วซึ่งนั่งเคียง คู่อยู่กับวาทิต ทำให้ไพลินกระอักกระอ่วนใจมากกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน กิ่งแก้วเองก็เกิดการปะทะคารมกับโรเจอร์ วาทิตก็รู้สึกเสียหน้าอย่างแรงจึงมีเรื่องทะเลาะกับเกษรา ทุกอย่างจึงดูยุ่งเหยิงไปหมดประจวบกับที่เรือนทองป่วยหนัก เกษราจึงต้องกลับไปดูแลยายที่บ้านบ่อยครั้ง ทำให้ทั้งสองห่างเหินกัน วาทิตเข้าใจเกษราผิดมากขึ้นไปอีก เพราะเข้าใจว่าผู้เป็นภรรยานั้นกลับไปคบหากับแฟนเก่าเหมือนดั่งเดิมถึงขนาด ไม่มีเวลากลับมาหาตนที่บ้านอีก รำไพกับรพีพรรณได้ที ก็ยุให้วาทิตหย่าขาดกับเกษรา ซึ่งกิ่งแก้วเองก็เห็นดีด้วยจึงตามไปต่อว่าเกษราถึงที่บ้าน และบังเอิญได้พบกับโรเจอร์ทั้งสองจึงปะทะคารมกันอีก โรเจอร์นั้นไม่ยอมแพ้เขาตามไปหาเธอถึงมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะมี รัศมี เพื่อนขาเม้าท์คนสนิทของกิ่งแก้วคอยกีดกัน หนุ่มตาน้ำข้าวตามกิ่งแก้วจนไปถึงที่บ้านและได้ทำความรู้จักกับพ่อและแม่ของ เธอ ด้วยเพราะเขาเริ่มพอใจในตัวอาจารย์สาวผู้นี้เข้าเสียแล้ว ความมึนตึงประชดประชันระหว่างสองสามีภรรยาทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด วาทิตกล่าวหาว่าเกษราจะกลับไปคืนดีกับโรเจอร์ ส่วนเกษราเองก็ต่อว่าชายหนุ่มที่ต้องการจะหย่าขาดจากเธอก็เพื่อไปแต่งงาน ใหม่กับกิ่งแก้วและจะเอาสมบัติมากู้ฐานะบ้านอภิบูรณาด้วยหลังจากที่เขาและ เธอได้หย่าขาดจากกัน ด้วยความโกรธที่ถูกเกษราต่อว่าชายหนุ่มจึงขาดสติปลุกปล้ำหญิงสาวในคืนนั้น และเขาก็ได้รู้ว่าเกษราเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่ใช่สาวเปรี้ยว หัวนอก เหมือนกับภาพที่ทุกคนมองเห็น

เกษรากลับมาอยู่บ้านทรัพย์สถิตย์ด้วยหัวใจที่ชอกช้ำและผิดหวังใน ตัววาทิต เธอสารภาพกับโรเจอร์ว่าสามารถมอบเพียงความเป็นเพื่อนให้กับโรเจอร์ได้เท่า นั้น ซึ่งชายหนุ่มเองก็เข้าใจดีและพร้อมที่จะช่วยเหลือเกษราเมื่อรู้ว่าเธอกำลัง มีปัญหากับวาทิต โรเจอร์ไปพูดตักเตือนให้กิ่งแก้วได้คิดอีกว่า ยังมีคนใกล้ตัวกิ่งแก้วอีกคนที่ยังสนใจเธออยู่ สร้างความงุนงงให้กับหญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง หนุ่มตาน้ำข้าวตัดสินใจออกจากบ้านทรัพย์สถิตย์ แล้วย้ายไปอยู่บ้านใกล้ ๆ กับบ้านของกิ่งแก้วในเวลาต่อมา ชายหนุ่มจึงเริ่มตามจีบกิ่งแก้วอย่างเป็นจริงเป็นจัง

เกษราตามไปขอขมาครูทั้งสาม ซึ่งทั้งเพลินตา สมพร และ นวลน้อย ก็ยังคบหากันอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าวันใดที่นวลน้อยนึกอยากกินอะไรขึ้นมาก็จะให้เพลินตาทำให้ทาน โดยมีโชคขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับกับข้าวมาให้ ซึ่งก็เป็นเหตุให้โชคได้รู้จักกับสายไหมน้องสาวของเพลินตาที่มีฝีไม้ลายมือ เรื่องทำกับข้าวไม่แพ้ผู้เป็นพี่สาว ด้วยความเจ้าชู้ของโชคเขาก็ออกลวดลายจีบสายไหมเข้าทันที แต่เพลินตานั้นไม่ชอบใจจึงคอยขัดขวาง ทำเอาชายหนุ่มนึกเกรง ๆ อยู่เหมือนกัน แต่เมื่อมีเกษรามาเป็นแขกที่บ้าน โชคก็เลิกสนใจสายไหมทันทีและหันมาจีบเกษราอย่างจริงจัง แต่เการาก็ไม่ได้ถือสา ปล่อยให้โชคพร่ำเพ้อไปแต่เพียงคนเดียว
ปู่พจน์ป่วยหนัก เฝ้าเรียกหาแต่เกษรา ชายชราขอร้องให้ทุกคนในบ้านเลิกทำท่ารังเกียจสะใภ้หัวนอกคนนี้ แถมขอร้องให้รำไพและรพีพรรณเลิกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนทำให้อภิบูรณามีปัญหาเรื่องการเงิน เมื่อความลับนี้ถูกเปิดเผยขึ้น ทั้งสองคนจึงถูกไพลินต่อว่าจนต้องยอมรับผิด ปู่พจน์มอบที่ดินผืนสำคัญที่เก็บไว้ตั้งแต่ยังหนุ่มให้กับวาทิตเพื่อนำไปขาย แล้วเอาเงินไปไถ่บ้านและที่ดินคืนจากเรือนทอง ไพลินตกใจมากที่สามีล่วงรู้ความลับอันนี้จึงรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถปกป้อง ทรัพย์สมบัติของตระกูลเอาไว้ได้ เรือนทองเองเมื่อหายจากอาการป่วยก็เดินทางไปที่อภิบูรณาทันที สอบถามเอาความจริงจากวาทิตว่ายังรักหลานสาวของเธออยู่หรือไม่ เพราะอย่างไรเสียเกษรากับวาทิตก็จะได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ดี แต่หากวาทิตหมดรักในตัวเกษราแล้วเธอก็จะขายบ้านและที่ดินคืนให้ แต่ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาจากปากวาทิต ทำให้ทุกคนในบ้านสงสัยถึงความในใจที่เขามีต่อเกษรา

เมื่อวาทิตนึกทบทวนถึงความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีต่อเกษรา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจขายที่ดินย่านชานเมืองแล้วนำเงินไปซื้อบ้านและที่ดินของ อภิบูรณาคืน เรือนทองเสียใจมากที่วาทิตไม่สามารถกลับมาคืนดีกับเกษราได้อีกจึงจำใจขาย ทรัพย์สินนั้นคืนให้วาทิตไป ในขณะที่เรือนทองและเพ็ญแขกำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพลินตาก็มาปรากฏตัวที่บ้าน เพราะเธอเองก็อดสงสัยในพฤติกรรมของเกษราไม่ได้ ที่ไปขอพักอาศัยอยู่กับตนที่ต่างจังหวัด และไม่เคยพูดถึงวาทิตเลย จึงลงทุนมาสืบเรื่องราวด้วยตนเอง ทั้งเรือนทองและเพ็ญแข จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับเพลินตาได้รับรู้ วาทิตไปหากิ่งแก้วที่บ้านและได้รู้ว่าเธอได้ติดบ่วงดวงใจของโรเจอร์เข้าให้ แล้ว หญิงสาวจึงสารภาพกับชายหนุ่มว่าจะไปอยู่เมืองนอกกับโรเจอร์ในอนาคต โรเจอร์เองก็บอกกับวาทิตว่าเกษรานั้นมีใจรักต่อวาทิตอย่างแท้จริง สองหนุ่มเกิดความเข้าอกเข้าใจและจับมือแสดงความเป็นมิตรต่อกัน

วาทิตได้พบกับเพลินตาและได้รับรู้เรื่องราวของเกษราทั้งหมดขณะที่ ไปอยู่กับครูทั้งสาม ชายหนุ่มจึงรีบกลับไปที่บ้านและบอกกับผู้เป็นย่าว่าจะไปสู่ขอหญิงสาวคนหนึ่ง แต่งงาน โดยให้ย่าไปเป็นผู้ใหญ่ให้ ไพลินเข้าใจว่าวาทิตจะไปขอกิ่งแก้วมาเป็นสะใภ้ จึงออกปากปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมให้ใครมาเป็นสะใภ้อีกนอกจากเกษรา เพราะอย่างไรเสียเธอก็เป็นเด็กสาวที่มีจิตใจงดงามคนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อไม่มีเกษราอยู่ในบ้านก็พลอยทำให้ทุกอย่างเงียบเหงากลับไปสู่บรรยากาศ แบบเดิม ๆ

โชคยังตามตื้อเกษราอย่างไม่ย่อท้อ ท้ายสุดเกษราจึงบอกกับเขาว่า เธอแต่งงานแล้ว และไม่สามารถปันใจให้กับชายอื่นได้อีกนอกจากวาทิต และคิดกับโชคเพียงแค่พี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น ขอให้เขากลับไปให้ความสำคัญและดูแลสายไหมเหมือนดั่งเดิม โชคจึงได้คิดและหวนกลับไปหาสายไหมอีกครั้ง วาทิตลงทุนติดตามเพลินตาไปงอนง้อขอคืนดีกับเกษราถึงอ่างทอง แต่ไม่ว่าอย่างไรเกษราก็ไม่คลายความโกรธไปได้เสียที จนชายหนุ่มท้อใจเดินทางกลับกรุงเทพฯ อย่างหมดหวัง ทำให้ครูทั้งสามของเกษราพลอยเศร้าใจไปด้วย

ครูเติม เพื่อนครูซึ่งรู้จักคบหากับครูสมพรมาเป็นเวลานานก็อดเป็นห่วงสาวใหญ่ไม่ได้ ที่เป็นกังวลเรื่องของเกษราจนทำให้เครียดจัด ครูเติมจึงคอยเฝ้าปลอบใจและสารภาพว่าหลงรักสมพรมานับสิบปีและจะไม่รอเวลาอีก ต่อไป ทำให้สมพรถึงกับปลื้มและซาบซึ้งกับคำว่าความรักในครั้งนี้

โรเจอร์ตัดสินใจจะพากิ่งแก้วไปอยู่ที่ฝรั่งเศสด้วยจึงพาพ่อกับแม่ มาพบญาติผู้ใหญ่ของกิ่งแก้วที่บ้าน ชายหนุ่มออกปากอยากหาแม่ครัวคนไทยสักคนไปช่วยงานที่ร้านอาหารไทยที่โน่น กิ่งแก้วนึกถึงเพลินตาครูสาวของเกษราได้จึงเดินทางไปที่อ่างทองเพื่อพบครู เพลินตาที่นั่น ทั้งสมพรและนวลน้อยต่างก็ดีใจไปกับเพื่อนที่จะได้ไปอยู่ต่างประเทศ กิ่งแก้วได้พบกับเกษราที่นั่นเธอขอโทษในสิ่งที่ผ่านมาและหวังว่าเกษราจะกลับ ไปคืนดีกับวาทิตในเวลาไม่นาน ประจวบกับที่ปู่พจน์เสียชีวิตลงเกษราจึงยอมกลับมาที่อภิบูรณา ทุกคนมีท่าทีดีกับเธอไม่เหมือนดั่งแต่ก่อน วาทิตยอมสารภาพตรง ๆ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในคืนนั้น แท้ที่จริงก็คือความรักที่อยู่ในใจของเขามาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มทั้งเสียใจและน้อยใจที่เกษราทิ้งเขาไปอย่างนั้น ต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมให้เกษราหนีไปไหนอีก ไม่ว่าหญิงสาวอยากจะทำตัวอย่างไรในบ้านอภิบูรณาเขาก็ยอมได้ทุกอย่าง หากแต่อย่าหนีหายไปจากชีวิตของเขาอีก

เกษราซาบซึ้งในความจริงใจที่วาทิตมีต่อเธอ หญิงสาวจึงยอมยกโทษให้กับความผิดที่ผ่านมา และเธอเองก็ยอมรับว่ารักวาทิตเช่นเดียวกัน ครูสมพรกับครูเติมตกลงที่จะแต่งงานกันและช่วยกันพัฒนาค่ายมวยสมพรยิม ด้านครูนวลน้อยก็ให้นายโชคหลานชายเลิกทำคณะรำซิ่งไปช่วยสายไหมทำกิจการร้าน อาหาร ส่วนตัวเองจะกลับไปเปิดโรงเรียนสอนดนตรีไทยที่กรุงเทพฯ โดยการสนับสนุนของเกษรา โชคกับสายไหมตกลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน เพลินตาก็ติดตามโรเจอร์กับกิ่งแก้วไปอยู่ต่างประเทศไม่ยอมทิ้งกระทะกับ ตะหลิวอาชีพที่เธอรักไปตลอดชีวิต คุณไพลินกับคุณเรือนทองก็กลายเป็นคู่หูคู่ใหม่ที่ควงกันไปวัดเป็นประจำเพื่อ ไปปรึกษาพระเรื่องตั้งชื่อเหลนที่กำลังจะเกิดมา ทั้งสองบ้านกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันโดยมีความรักของวาทิตและเกษราเป็นตัว เชื่อมความสัมพันธ์ของสองตระกูล

ข้อมูลจาก : thaitv3.com

[Read More...]

ละคร พระจันทร์สีรุ้ง

บทประพันธ์ : วัตตรา
บทโทรทัศน์ : ปัทมาพร เคนผาพงษ์
กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ดำเนินงานสร้าง : บริษัท ละครไท จำกัด
นำแสดงโดย : สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, จินตหรา สุขพัฒน์, วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย, อัมราภัสร์ จุลกะเศียน
เวลาออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางไทยทีสีช่อง 3 เริ่ม 3 มิถุนายน นี้

เรื่องย่อ
ชีวิต นางโชว์ของอารักษ์ (อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ต้องจบลงด้วยวัยเพียง 35 อาจจะเร็ว ไปสักหน่อย แต่เพราะคลื่นลูกหลัง ที่มาแรงกว่า ทำให้เขารับไม่ได้ที่ จะต้องกลายไปเป็นแค่ ตัวตลกคั่นรายการ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ… เขากำลังมีลูกชาย ตะวัน (บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เป็นลูกของ อรดี (แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์) หมอนวดซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกับอารักษ์ หล่อนตั้งใจจะคลอดลูก แล้วทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อตามผัวใหม่ ชาวเยอรมันไปต่างประเทศ ด้วยความที่อารักษ์รัก และสงสารเด็กน้อย ที่ไม่มีใครต้องการ เหมือนชีวิตของตน ที่เคยระเห็จออกจากบ้าน เพราะพ่อซึ่งไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น จนประกาศตัดญาติขาดมิตร อารักษ์เลยได้มาใช้ชีวิต เป็นนางโชว์กับ ป้อ (ไก่-วรายุธ มิลินทจินดา) เพื่อนสนิทถึงพัทยา อารักษ์ได้ตัด สินใจที่จะขอตะวันมาเลี้ยงเป็นลูก ท่ามกลางเสียงคัดค้าน ของบรรดาเพื่อนชาวสีม่วงด้วยกัน โดยเฉพาะกับชัชชัย (ปัญญาพล เดชสงค์) แฟนหนุ่มที่กำลังคิดตีจาก ได้โอกาส เอาเรื่องเด็กน้อย มาอ้างเพื่อแยกทางกับ อารักษ์ ทำให้เขาเสียใจมาก ถึงกับคิดฆ่าตัวตาย แต่เพราะเสียง ร้องของตะวัน ทำให้เขาได้ฉุกคิด ว่าตนยังมีภาระ ที่สำคัญ ภาระยิ่งใหญ่ของคำว่า…พ่อ

อารักษ์ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเอง ทิ้งความเป็นเพศที่สาม แล้วย้ายตัวเองไปอยู่เชียงใหม่ ใช้เงินเก็บที่มีอยู่ เซ้งตึกแถวที่หน้า ตลาดสดย่านชานเมือง เปิดเป็นร้านทำผมชื่อว่า "ตะวันซาลอน" มีบรรดาแม่ค้าแม่ขาย และชาวบ้านในละแวกนั้น แห่กันมาใช้บริการแทบทุกวัน เพราะความที่เจ้าของร้านเป็นคนอัธยาศัยดี แล้ววันหนึ่งอารักษ์ก็ได้ช่วยชีวิตแก้วตา (เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์) จากการตามล่าของพวกค้าผู้หญิง ที่หลอกซื้อหญิงสาวจากพ่อแม่จะพาไปทำงานที่มาเลย์ หล่อนหลบหนี แล้วระหกระเหินมาจนถึงหน้าร้าน ด้วยความสงสารในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาจึงให้ที่ซ่อน แล้วแจ้งตำรวจให้สกัดจับพวกค้าผู้หญิง จนสามารถช่วยชีวิตหญิงสาวได้อีกหลายคน แก้วตาระลึกในบุญคุณของอารักษ์ จึงขออยู่ช่วยงานที่ร้าน และอาสาที่จะช่วยดูแลตะวันอีกแรง

ถึงแม้ว่าอารักษ์จะพยายามบอกและแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตนเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะกับตะวัน แต่กิริยาที่สุภาพ นิ่มนวล ก็ทำให้ทุกคนดูออกว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ ทำให้อารักษ์ไม่สบายใจ เกรงว่าลูกชายจะมีปมด้อย จนเมื่อตะวันโตถึงวัยเข้าเรียน เขาเป็นเด็กฉลาด และหน้าตาดี จึงมีแต่คนรักใคร่ บรรดาลูกค้าที่มาทำผมก็มักจะหยอกเอิน ให้ช่วยหยิบจับ ทำนั่นทำนี่ให้ จนอารักษ์ต้องคอยสั่งห้าม สร้างความสงสัยให้กับเด็กน้อย จนต้องแอบมาบ่นให้แก้วตาฟัง หญิงสาวซึ่งใช้ชีวิตร่วมกับสองพ่อลูกมานาน รู้ดีว่าอารักษ์คิดอะไร หล่อนซึ่งแรกๆ ก็เคยแอบชอบชายหนุ่ม แต่พอรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย ก็ได้แต่ทำใจยอมรับ และช่วยเขาปิดบังความจริงกับเด็กน้อย

วิถีชีวิตของตะวันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเข้าโรงเรียน เขามักจะถูกเพื่อนๆ ล้อเรื่องพ่อเป็นกะเทยจนมีเรื่องชกต่อยกันเป็นประจำ เด็กน้อยซึ่งถูกพ่อสอนให้เป็นคนรักสันติ มักจะมาบ่นให้ผู้เป็นพ่อฟังอยู่เสมอทุกครั้งที่มีปัญหา เขาชอบนอนหนุนตัก ให้พ่อเล่านิทานให้ฟังใต้แสงจันทร์

แต่แล้วเมื่อตะวันอายุสิบขวบ ได้เรียนรู้โลกกว้างมากขึ้น จนพอจะรับรู้เห็นความผิดปกติของอารักษ์ที่ไม่เหมือนพ่อของเพื่อนๆ ถึงแม้อารักษ์จะพยายามปิดบังอย่างไร แต่ความลับก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เมื่อป้อนำบรรดาเพื่อนเก่าร่วมคณะนางโชว์มาเยี่ยมเยือน ภาพพ่อที่ทำตัวกรี๊ดกร๊าดสนิทสนมกับแขกแปลกหน้ากลุ่มใหญ่ ทำให้ตะวันแน่ใจในสิ่งที่เขากลัว ความจริงที่เด็กน้อยพยายามหลอกตัวเองเรื่องพ่อนั้นเป็นเรื่องจริง

ตะวันเสียใจจนถึงขั้นหนีออกจากบ้านไปขอพักกับครูชนะ (เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) ครูพละที่สนิทที่สุด ขณะนั้นอารักษ์และบรรดาเพื่อนๆ พยายามตามหาด้วยความเป็นห่วงถึงกับไปแจ้งความ ระหว่างที่ตะวันอยู่กับชนะนั้น ครูหนุ่มก็พยายามกล่อมจนเด็กน้อยเริ่มอ่อนลง และเข้าใจโลกมากขึ้น ยิ่งเห็นใครต่อใครวิ่งวุ่นตามหาตน โดยเฉพาะพ่อที่ถึงกับถูกรถชนก็ทำให้เด็กน้อยได้คิด และยอมที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง อารักษ์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตะวันฟังโดยไม่ปิดบัง เว้นแต่เรื่องอาชีพของแม่เด็กน้อย เพื่อให้ตะวันยังมีภาพแม่ที่แสนดีไว้ในใจ

ถึงแม้ความจริงจะเปิดเผย แต่อารักษ์ก็ยังคงทำตัวปกติ เพื่อรักษาหน้าลูกชาย เขาจัดการย้ายโรงเรียน และให้แก้วตาออกหน้า เป็นผู้ปกครองแทนตน เพื่อไม่ให้ตะวันต้องเป็นขี้ปากของใคร จนเมื่อเวลาผ่านไป ตะวันโตขึ้น และสามารถสอบ เข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพได้ ชายหนุ่มต้องแยกจากครอบครัวอันเป็นที่รักมาเช่าอยู่หอพักตามลำพัง โดยที่ทั้งสองพ่อลูก ก็ยังคงติดต่อถามไถ่กันทางโทรศัพท์แทบทุกวัน

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ตะวันได้รู้จักกับ ปลายฟ้า (แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) นักศึกษาต่างคณะ ลูกสาวคนสวยของสถาพร (ถา-สถาพร นาควิลัย) นายตำรวจใหญ่ หญิงสาวเป็นดาวของมหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับตะวัน ที่ถูกเลือกให้เป็นเดือน ในงานกีฬาประเพณีของสถาบัน ทำให้ทั้งสองต้องทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่งทำให้ตะวันรู้สึกชื่นชม ในความน่ารัก และพยายามจะผูกมิตร ด้วยแต่ปลายฟ้ากลับไม่สน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ตะวันตกหลุมรักเธอมากขึ้นไปอีก โดยมองข้ามเกยูร (ปีใหม่-สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัต) เพื่อนสาวที่แอบชอบตนอยู่

ตลอดเวลาสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ตะวันได้เพียรเฝ้าติดตามความเป็นไปของปลายฟ้าด้วยความรัก จนรู้ว่าเธอชอบทำอะไรที่ไหน รวมทั้งรู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ด้วยความรักที่บริสุทธิ์และคำแนะนำของผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นที่ปรึกษาตลอด เวลา ตะวันจึงแอบส่งดอกไม้และข้อความซึ้งๆ ให้เธอที่คณะทุกวัน จนหญิงสาวรู้สึกแปลกใจพยายามจะหาตัวเจ้าของดอกไม้ให้ได้ แต่ก็มีเหตุให้ต้องคลาดกันเสมอ

แล้วในที่สุดตะวันก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับปลายฟ้ายิ่งขึ้น เมื่อเขาตัดสินใจไปคัดเลือกตัวแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัย และผ่านการทดสอบได้รับบทนำคู่กับหญิงสาว ตลอดการซ้อมตะวันพยายามเอาใจปลายฟ้าจนเธอรู้สึกอึดอัด หญิงสาวพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่บ้านรวมทั้งตะวัน ทำให้ชายหนุ่มพบว่าช่องว่างระหว่างเขากับเธอนั้นมีมากกว่าที่คิด เมื่อหญิงสาวมีฐานะต่างกับเขามาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขายอมแพ้ ตะวันตัดสินใจที่จะไปทำงานเป็นเด็กรับรถให้ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง เพียงเพื่อจะหาเงินพาหญิงสาวไปทานอาหารหรูๆสักมื้อหนึ่งพร้อมกับบอกความในใจ ที่เก็บไว้ตลอดสี่ปี และที่นั่นทำให้เขาได้ช่วย ภัครินทร์ (นุ่น-สินิทรา บุญยศักดิ์) ฝ่ายดูแลศิลปินของ "เลิฟลี่ เรคคอร์ด" จากโจรวิ่งราว ภัครินทร์เห็นหน่วยก้านของตะวัน จึงชวนไปลองเทสต์เสียงดู แต่ชายหนุ่มปฏิเสธ

ตะวันมีโอกาสได้พบกับครอบครัวของปลายฟ้าในวันแสดงละครเวที ชายหนุ่มรู้สึกชื่นชมในบุคลิกของสถาพร และดารณี (ไก่-สุปราณี เจริญผล) พ่อแม่ของหญิงสาว และในระหว่างการแสดงตะวันก็เผลอใจไปจูบปลายฟ้านอกบท สร้างความขัดเคืองให้หญิงสาว จนไม่ยอมพบหน้าด้วย ตะวันกลุ้มใจจึงได้แต่โทรไปปรับทุกข์กับผู้เป็นพ่อ อารักษ์จึงแนะนำให้ลูกชายไปขอโทษหญิงสาว

ใน งานวันเกิดของปลายฟ้าที่ถูกจัดขึ้นที่บ้านของหญิงสาว ตะวันอาศัยเกยูรให้พาเข้างาน เขาให้ของขวัญ และออกไปร้องเพลงขอโทษตามที่อารักษ์สอนไว้จนปลายฟ้าเริ่มจะอ่อนลง ยอมรับคำขอโทษจากชายหนุ่ม พร้อมทั้งแนะนำศศิน (เอส-วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย) ชายคนรักที่เป็นลูกชายของศักดา (อาเชาว์-สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักการเมืองใหญ่ให้ตะวันได้รู้จัก ทำให้ชายหนุ่มเสียใจ และเลี่ยงออกไปจากงาน ภัครินทร์ที่มาร่วมงานเพราะเป็นญาติผู้พี่กับปลายฟ้า นำวีดีโอภาพและเสียงของตะวันมาให้พบโชค (ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์) เจ้าของค่ายเพลงดังฟัง ตะวันจึงถูกเรียกให้เข้าไปพบ และกล่อมให้เป็นศิลปินเบอร์ใหม่ของเลิฟลี่เรคคอร์ด

ตะวันดีใจโทรไปแจ้งข่าวดีกับพ่อ แต่อารักษ์กลับเป็นห่วง กลัวว่าเมื่อตะวันดังแล้วจะลืมพ่อกะเทยคนนี้ แต่ชายหนุ่มรับปากว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้น เขาตั้งใจจะหาเงินมากๆ เพื่อเก็บไว้ซื้อบ้านอิงดอยให้พ่ออยู่กับเขาตอนแก่ อารักษ์ได้แต่ย้ำลูกชายให้ปิดเรื่องของตนเอาไว้ เพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียง

ตะวันตัดสินใจดร็อปการเรียนเอาไว้ชั่วคราว ในเทอมสุดท้าย ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น รวมทั้งปลายฟ้านั้นจบการศึกษากันในหมด ชายหนุ่มถูกจับเปลี่ยนลุคใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และเปิดตัวด้วยการถ่ายแบบ เพื่อสร้างความนิยม ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักร้อง

ตะวันเริ่มกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีสาวๆ มาให้ความสนใจ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงไม่สามารถเข้าใกล้ปลายฟ้าได้มากกว่าความเป็นเพื่อน จนเมื่อเขาได้พบศศินควงสิริกานดา (มิ้ม-อัมราภัสร์ จุลกะเศียน) ดาราน้องใหม่ไปร่วมงานวันเกิดของนิตยสารบันเทิงฉบับหนึ่ง จึงพยายามที่จะหาทางเตือนปลายฟ้า แต่หญิงสาวกลับไม่เชื่อ เธอถึงขั้นไปสอบถามความจริงจากชายคนรัก แต่กลับพบว่าศศินกำลังอยู่กับสิริกานดาจริง ปลายฟ้าจึงประกาศตัดความสัมพันธ์กับศศิน ช่วงนี้เองที่ตะวันได้มีโอกาสเข้ามาแสดงความจริงใจที่มีต่อปลายฟ้า เขาเฝ้าปลอบ และเล่านิทานพระจันทร์ที่พ่อเคยเล่าให้เธอฟัง จนปลายฟ้ารู้สึกเข้มแข็ง และเปิดใจยอมรับชายหนุ่มมากขึ้น จนถึงขั้นเป็นความรักเมื่อชายหนุ่มสารภาพว่า เขาเป็นเจ้าของดอกไม้ที่ส่งให้ตลอดเวลาสี่ปี

ในที่สุดผลงานชิ้นแรกของการเป็นศิลปินของตะวันก็ออกสู่สาธารณชน เขากลายเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง ในขณะที่งานเพลงกำลังไปด้วยดี ความสัมพันธ์ของเขากับปลายฟ้าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คบหาเพียงไม่นาน แต่ทั้งสองก็ผูกพันและเข้าใจในกันและกันมาก แต่ก็ต้องพยายามปิดบัง คอยหลบนักข่าวตามคำแนะนำและขอร้องของภัครินทร์

แต่แล้วช่วงเวลาที่สวยงามของตะวันก็สะดุดลง เมื่อชายหนุ่มได้พบกับอรดี แม่ซึ่งทิ้งเขาไป หลังจากที่ตามสามีใหม่ไปใช้ชีวิตในเยอรมันได้ยี่สิบปี พอสามีตายอรดีก็มีเงินเก็บอยู่ก้อนใหญ่ จึงบินกลับมาเมืองไทย ตั้งใจลงทุนทำธุรกิจเอาเงินไปลงหุ้นกับวิมล (ดี้-ชนานา นุตาคม) เพื่อนเก่าร่วมอาชีพเปิดบริษัทผลิตเครื่องสำอาง แต่เกิดไปสะดุดใจกับชื่อและนามสกุลของนักร้องหน้าใหม่ที่ชื่อตะวัน จึงสืบจนรู้ว่าเป็นลูกชายตนที่ยกให้อารักษ์ไป เธอจึงมาแสดงตัวให้ตะวันได้รู้จัก เพื่อหวังว่าความดังของลูกชายจะช่วยทำให้ธุรกิจของเธอก้าวหน้า แต่ตะวันกลับปฏิเสธที่จะยอมรับ เมื่อแม่ที่ตนวาดฝันไว้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อรดีทั้งปากร้าย แต่งตัวจัดจ้าน ไม่ใช่นางฟ้าอย่างที่พ่อเคยบอก อีกทั้งความรักที่เขามีต่อปลายฟ้าก็เริ่มมีปัญหา เมื่อศศินย้อนกลับมาขอคืนดีกับหญิงสาวอีกครั้ง

ศศินรู้ว่าปลายฟ้ามีใจให้กับตะวัน เขาจึงแสร้งทำดี ใช้ความเป็นสุภาพบุรุษทำให้ปลายฟ้าตายใจ ในการยอมรับเขาเป็นเพื่อน แต่ชายหนุ่มกลับสร้างสถานการณ์โดยหลอกใช้เกยูร หาโอกาสให้หล่อนได้ใกล้ชิดกับนักร้องหนุ่ม และเป่าหูจนปลายฟ้ารู้สึกแคลงใจ ขณะเดียวกันศศินก็พยายามทำดีกับปลายฟ้าเพื่อให้ตะวันได้เห็น จนนักร้องหนุ่มซึ่งกำลังว้าวุ่น ขาดความยับยั้งชั่งใจต่อว่าปลายฟ้าว่ากำลังจะหวนกลับไปคบหาศศิน ทำให้หญิงสาวเสียใจ และต่อว่าชายหนุ่มไปอย่างแรง ก่อนจะหลบหน้าผู้คน หนีปัญหาไปพักผ่อนที่ภูเก็ต โดยตัดขาดการสื่อสารทุกชนิด

ตะวัน เสียใจเรื่องปลายฟ้า และสับสนเรื่องอรดี จึงคิดหนีปัญหาวุ่นวายกลับไปหาพ่อ แต่ระหว่างทางเกิดประสบอุบัติเหตุรถตกเขา นักร้องหนุ่มถูกส่งมารักษาตัวที่กรุงเทพ แพทย์สามารถช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ แต่เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือน เมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมด จึงเป็นโอกาสของอรดีที่อ้างหลักฐานจากทางโรงพยาบาลที่ทำคลอด และพยานบุคคลยืนยันกับหนังสือพิมพ์ จนตะวันต้องยอมรับอรดีเป็นแม่ โดยที่จิตใต้สำนึกลึกๆ ของเขากลับไม่มั่นใจ

ข่าวร้ายของตะวันทำให้อารักษ์รีบลงมาดูอาการลูกชาย พร้อมกับแก้วตาและครูชนะซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นคู่รักกัน แต่เขากลับพบอรดี และถูกกีดกันไม่ให้เห็นหน้าตะวัน โดยขู่ว่าความเป็นเพศที่สามของอารักษ์จะทำให้ลูกเสียชื่อเสียง อารักษ์ต้องคิดหนัก แอบเข้าไปพบลูกชาย แล้วก็พบว่าตะวันจำเขาไม่ได้ และยังแสดงท่าทางรังเกียจเมื่อเห็นหน้าเขา โดยไม่รู้เลยว่าลูกชายได้ถูกผู้เป็นแม่เป่าหูว่า อารักษ์เป็นพวกโรคจิตที่คลั่งศิลปินหนุ่มๆ หนุ่มใหญ่รู้สึกเจ็บปวด และยอมหลีกทางให้อรดีดูแลตะวัน เขาเลือกเป็นความทรงจำที่หายไป เพื่อให้ลูกชายได้มีอนาคตที่สดใส อารักษ์จึงพาแก้วตากับครูชนะกลับเชียงใหม่โดยไม่ยอมบอกความจริงให้ทั้งสอง เข้าใจ

ตลอดเวลาที่ตะวันอยู่โรงพยาบาล เกยูรมาคอยดูแลชายหนุ่มด้วยความรัก หญิงสาวจึงรู้เห็นสิ่งที่อรดีพยายามจะปิดบังตะวันเรื่องอารักษ์เข้าโดย บังเอิญ อรดีกลัวว่าหญิงสาวจะเปิดเผยความจริง จึงยื่นข้อเสนอให้เธอเก็บความลับนี้ไว้ แลกกับการสนับสนุนให้เธอได้รักกับตะวัน และจัดการทำลายข้าวของที่เกี่ยวกับปลายฟ้าของตะวันจนหมดสิ้น เพื่อให้เกยูรวางใจจนยอมรับปาก

ปลายฟ้าได้รู้ข่าวของตะวัน เธอก็รีบรุดขึ้นมาเยี่ยมชายคนรัก แต่กลับพบว่าตะวันคนใหม่นี้ ไม่เหมือนคนเดิมที่รู้จัก เมื่อชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนสุภาพ ก็กลายเป็นคนก้าวร้าว เย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจ นอกจากนั้นยังพบเกยูรแสดงตัวว่าเป็นคนรักของชายหนุ่มอีก ก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้าเสียใจ ช่วงเวลานี้ศศินก็แทรกเข้ามาทำตัวเป็นที่ปรึกษาให้หญิงสาวในฐานะพี่ชายที่ แสนดี

ด้วยความกลัวว่าปลายฟ้าจะหวนกลับไปหาตะวันอีก ศศินจึงคิดขัดขวางคนทั้งสอง ชายหนุ่มซึ่งกว้างขวางด้วยบารมีของผู้เป็นพ่อ รู้ว่าธุรกิจของอรดีที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนกำลังมีปัญหา เมื่อวิมลเชิดเงินหนีไป และทิ้งหนี้สินไว้ให้อรดีรับผิดชอบ ศศินจึงทำเป็นยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนทำธุรกิจด้วย โดยมีข้อเสนอให้สาวใหญ่ช่วยขัดขวางไม่ให้ตะวันได้หวนกลับมาคบหากับปลายฟ้า

ตะวันเริ่มสับสน และรู้สึกขัดตากับสิ่งรอบตัวไปหมด เขาไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่อรดีพยายามจะยัดเยียดใส่หัวเขาเกี่ยวกับเรื่องใน อดีต แต่ชายหนุ่มกลับไม่พบหลักฐานใดๆ ในบ้าน ที่ยืนยันว่าเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอรดีเลยสักชิ้น อรดีพยายามสร้างภาพแม่ลูกที่รักกันให้ใครๆ ได้เห็น ทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และส่งผลให้กิจการเครื่องสำอางกระเตื้องขึ้น โดยความช่วยเหลือของศศินที่เข้าไปดูแลด้านการตลาดให้อีกแรง

ปลาย ฟ้าซึ่งยังรักตะวัน ตั้งใจจะทำให้เขาฟื้นคืนความทรงจำได้อีกครั้ง แต่อรดีกลับปฏิเสธความหวังดี หญิงสาวจึงได้แต่ไปปรับทุกข์กับศศิน เพราะคิดว่าชายหนุ่มเข้าใจ ศศินจึงถือโอกาสขอคืนดีอีกครั้ง แต่ปลายฟ้าปฏิเสธเพราะหัวใจของเธอมอบให้ตะวันไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มจึงแสร้งยอมรับความจริง และเปิดทางให้หญิงสาวได้ช่วยเหลือตะวันเต็มที่ สร้างความรู้สึกที่ดีให้ปลายฟ้า แต่เขากลับไปกำชับให้อรดีทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ปลายฟ้าได้มีโอกาสพบกับตะวันตามลำพัง

ปลายฟ้าตั้งใจจะเอารูปถ่ายของเขาและเธอมาพิสูจน์ความจริงกับตะวัน แต่กลับถูกเกยูรซึ่งอรดีให้มาช่วยดูแลตะวันขัดขวาง ชายหนุ่มเริ่มสะกิดใจนึกสงสัยในท่าทีของปลายฟ้า อรดีจึงตัดสินใจเปิดตัวเกยูรกับสื่อต่างๆ ว่าเป็นคู่รักของตะวัน เพื่อให้ปลายฟ้าตัดใจ ซึ่งก็ได้ผล หญิงสาวเสียใจจนคิดว่าหมดหวัง จึงได้แต่ขอร้องศศินให้ช่วย ศศินจึงจำเป็นต้องให้อรดีนัดตะวันออกมาให้ปลายฟ้า ในขณะที่เขากลับเรียกนักข่าวให้มา ทำให้นักร้องหนุ่มซึ่งกลัวเป็นข่าว เข้าใจว่าปลายฟ้าคิดจะใช้สื่อเพื่อจะจับเขา จึงพาลโกรธไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆ จากปลายฟ้า
หลังจากกลับมาเชียงใหม่ อารักษ์ก็ยังคงติดตามข่าวคราวของตะวันโดยตลอด แก้วตาตัดสินใจแต่งงานกับครูชนะ ทั้งสองส่งการ์ดเชิญให้ตะวันมาร่วมงาน แต่กลับถูกอรดีเก็บไว้ ทำให้บรรดาคนรู้จักที่เชียงใหม่เข้าใจว่าชายหนุ่มลืมตัว อารักษ์ต้องช่วยแก้ต่าง ทั้งที่ใจก็หวังจะได้พบหน้าลูกชายอีกสักครั้ง กิจการตะวันซาลอนเริ่มมีปัญหา เมื่อมีร้านเสริมสวยที่ใหญ่กว่าและทันสมัยกว่าเข้ามาในตลาด สุขภาพที่เริ่มจะทรุดโทรม ความเคร่งเครียด และความเป็นห่วงลูกชาย ทำให้อารักษ์หน้ามืดบ่อยขึ้น เมื่อไปตรวจก็พบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์จึงเลือกที่จะปิดทุกคนเพื่อความสบายใจ นอกจากปรีดาเพื่อนสนิท และประกาศขายร้าน เพื่อย้ายไปอยู่กรุงเทพ จะได้ดูความเป็นไปของลูกชาย โดยหลอกทุกคนว่าจะไปอยู่กับตะวัน

ปรีดาซึ่งกลายเป็นเจ้าของบาร์เบียร์ที่พัทยาเป็นห่วงเพื่อน จึงทิ้งงานขึ้นมาเยี่ยมอารักษ์ที่กรุงเทพพร้อมกับเจสัน ฝรั่งซึ่งทั้งสองเคยช่วยชีวิตจากโจร ตอนมาทำธุรกิจที่พัทยาใหม่ๆ เจสันกำลังจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด เขามอบเงินให้อารักษ์ไว้ก้อนหนึ่ง เพื่อใช้รักษาตัว แต่อารักษ์เลือกที่จะนำเงินก้อนนั้นเก็บไว้ไปซื้อบ้านอิงดอย บ้านในฝันของสองพ่อลูก โดยให้แก้วตาช่วยดูแล และโกหกทุกคนว่าเป็นเงินที่ตะวันฝากมา

อารักษ์ ไปสมัครเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายดูแลเสื้อผ้าให้ศิลปินที่บริษัทเลิฟลี่เรค คอร์ด โดยอาศัยเพื่อนเก่าๆที่เคยเป็นนางโชว์ด้วยกันมาก่อนแนะนำ ทำให้เขามีโอกาสได้พบกับลูกชายอีกครั้ง แต่ตะวันก็จำหน้าเขาได้ว่าเคยพบที่โรงพยาบาล จึงไม่ค่อยถูกชะตา เพราะคิดว่าอารักษ์เป็นกะเทยที่แอบปลื้มตนตามที่แม่เคยย้ำไว้ สร้างความน้อยใจให้กับอารักษ์เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ต้องอดทน เพียงเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดลูกชาย

อรดีต้องการให้ตะวันถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายของบริษัทตน ศศินเห็นโอกาสที่จะทำให้ปลายฟ้าตัดใจจากตะวันได้เด็ดขาด จึงสนับสนุนให้ตะวันเลือกปลายฟ้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ร่วม สร้างความไม่พอใจให้สิริกานดาที่ถูกคาดหมายว่าจะได้งานนี้ การถ่ายทำไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เมื่อปลายฟ้ารู้สึกว่าตะวันเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน เขาทั้งหยิ่ง และเรื่องมากจนเธอเสียความรู้สึก จึงพยายามเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเขา แต่กลับยิ่งเป็นการท้าทายตะวัน เขาเอ่ยชวนเธอไปเที่ยวทำราวกับปลายฟ้าใจง่าย เธอจึงปฏิเสธทั้งพูดจาดูถูก จนชายหนุ่มนึกโกรธต้องการเอาชนะ อารักษ์ซึ่งต้องมาช่วยดูแลเสื้อผ้าให้อยู่ในเหตุการณ์เห็นความบาดหมางของ ทั้งสอง ก็ได้แต่เตือนสติลูกชาย แต่ตะวันไม่ยอมฟัง และพาลต่อว่าจนอารักษ์ต้องเลี่ยงหลบไปร้องไห้ สร้างความสงสัยให้กับปลายฟ้าในท่าทีที่เขามีต่อตะวัน

ศศินพยายามจะให้ปลายฟ้าเห็นข้อเสียของตะวันยิ่งขึ้นจะได้ตัดใจเสียที เขากล่อมจนสิริกานดายอมร่วมมือยั่วยวนตะวันจนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เพื่อให้ปลายฟ้าเข้าใจผิดตะวันมากขึ้น และก็ได้ผลเมื่อหญิงสาวซึ่งกำลังมีปัญหาครอบครัว เมื่อผู้เป็นพ่อพัวพันกับคดีทุจริตในราชการเสียใจ และยอมเปิดใจที่จะให้ศศินพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

ข่าวเสียหายของตะวันมีมากขึ้น จนถูกพบโชค คาดโทษจะฉีกสัญญา ทำให้ตะวันยิ่งเครียดหนัก อีกทั้งปัญหาหนี้พนันก้อนใหญ่ของอรดี ที่เกิดจากการถูกศศินหลอกให้ไปเที่ยวที่บ่อนแห่งหนึ่ง ทำให้ตะวันต้องหาเงินก้อนใหญ่เพื่อมาช่วยเหลือกิจการ ศศินจึงอาศัยโอกาสนี้ยื่นมือเข้าซื้อหุ้นของอรดีทั้งหมด และครอบครองธุรกิจแต่เพียงผู้เดียว โดยยังแสร้งทำเป็นดียินยอมให้อรดีดูแลกิจการตามปกติ

ทั้งข่าวสิริกานดา และหนี้พนันของอรดี ทำให้ชื่อเสียงของตะวันเริ่มมีปัญหามากขึ้น ตะวันต้องสร้างภาพทำตัวเป็นคนใหม่ ด้วยการใกล้ชิดเกยูรให้มากขึ้น เพื่อกลบข่าวฉาวกับสิริกานดา นั่นจึงทำให้ปลายฟ้าตัดสินใจเด็ดขาดที่จะล้มเลิกความตั้งใจช่วยชายหนุ่มให้ คืนความทรงจำ เธอส่งดอกไม้ที่เขาเคยให้มาตลอดสี่ปีคืน จนชายหนุ่มรู้สึกสะกิดใจ เขาเริ่มที่จะจำอะไรได้บ้างลางๆ แวะไปที่ร้านอาหารซึ่งเคยมากับปลายฟ้าเป็นประจำ ฟังเพลงที่หญิงสาวชอบ แต่ก็มักจะถูกเกยูรและอรดีขัดขวาง ดึงให้เขาเลิกคิดที่จะสนใจเรื่องในอดีตอีก ช่วงเวลานั้นเองปลายฟ้าก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับศศิน เพื่อให้พ่อของเขาช่วยเหลือพ่อของตนให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาพัวพันเรื่องทุจริต ทำให้เธอค่อยๆ หายไปจากชีวิตของตะวัน

อารักษ์ซึ่งทำงานฝ่ายเสื้อผ้าก็ได้รับรู้เรื่องราวของลูกชายมาตลอดทั้งจาก เพื่อนร่วมงาน และข่าวต่างๆ เขายังคงพยายามที่จะหาโอกาสคอยเตือนตะวัน เกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้วยความเป็นห่วง จนชายหนุ่มไม่พอใจ ก็มักจะพาลระเบิดอารมณ์ใส่ แต่อารักษ์ก็ยังทนนิ่ง และพยายามอดกลั้นความน้อยใจ อย่างน้อยก็เพื่อให้ลูกชายได้มีเขาเป็นที่ระบายความอึดอัดในใจ ตะวันเองนั้นก็เริ่มรู้สึกคุ้นกับสิ่งที่อารักษ์พยายามสั่งสอน แต่ก็ยังคงคิดระแวงในความหวังดีของอารักษ์

อาการ ป่วยของอารักษ์เริ่มหนักขึ้นจนถึงกับเป็นลมในที่ทำงาน หมอที่ตรวจอาการอยากให้เขารีบผ่าตัด แต่อารักษ์กลับประวิงเวลาไว้ด้วยความกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าลูกชายอีก แต่อาการที่กำเริบมากจนเขารู้สึกท้อแท้ อารักษ์รู้ดีว่าปลายฟ้าคือผู้หญิงที่ตะวันรัก จึงไปขอร้องให้หญิงสาวช่วยปลอบใจตะวัน จนปลายฟ้าซึ่งยังตัดใจจากชายหนุ่มไม่ขาดยินยอมที่จะไปพบตะวันอีกครั้ง ชายหนุ่มคิดพิสูจน์ว่าเธอเป็นคนรักของเขาจริงหรือไม่ เขาขอให้เธอพาไปทุกๆ ที่ ซึ่งเธอและเขาเคยไปด้วยกัน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นและพอที่จะจำอะไรได้บ้าง แต่สุดท้ายเขากลับเลี้ยวรถพาเธอเข้าโรงแรม ปลายฟ้าผิดหวังในการกระทำของตะวัน ต่อว่าและตบหน้าเขาอย่างแรงก่อนจะหนีออกไปพบกับอารักษ์ซึ่งคอยตามติดลูกชาย ทุกฝีก้าวช่วยพาเธอหลบไปได้

ปลายฟ้าสอบถามความจริงว่าอารักษ์เป็นใคร แต่เขากลับบ่ายเบี่ยง จนปลายฟ้ายิ่งสงสัย แต่ก็แน่ใจว่าอารักษ์เป็นคนดี จึงไว้วางใจที่จะเล่าเรื่องราวที่บ้านให้หนุ่มใหญ่ฟังเพื่อเป็นการระบายความ อัดอั้น อารักษ์จึงแนะนำ และเล่านิทานปลอบใจจนหญิงสาวรู้สึกสบายใจขึ้น นั่นก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าอารักษ์ต้องมีความเกี่ยวข้องกับตะวันอย่างแน่ นอน

ศศินไม่พอใจเมื่อรู้ว่าตะวันพยายามจะติดต่อกับปลายฟ้า เขาบังคับให้อรดีจัดการ สาวใหญ่จึงคิดจะให้ลูกชายหมั้นหมายกับเกยูร แต่ตะวันไม่ยอมเพราะชายหนุ่มเริ่มรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักเกยูร จึงนัดหญิงสาวออกมาเพื่อบอกความจริง เกยูรรู้สึกอับอายและเสียใจจนถึงขั้นกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่มีคนช่วยไว้ทันเวลา แต่ข่าวของเธอทำให้ชื่อเสียงความเป็นนักร้องของตะวันต้องมัวหมองอีกครั้ง

ตะวันกลุ้มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์สามเส้าระหว่างเขา เกยูร และปลายฟ้า อารักษ์ก็หาโอกาสให้คำแนะนำชายหนุ่มให้ทำตามหัวใจของตัวเอง ตะวันเริ่มมองอารักษ์ในมุมที่ดีขึ้น และยิ่งคุ้นกับคำสอน ท่าทางของอารักษ์ เหมือนว่าความทรงจำจะกลับคืนมา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากไปกว่าเรื่องราวความรักในตอนนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะบอกรักปลายฟ้า ทั้งที่รู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับศศิน ทำให้ปลายฟ้าสับสนระหว่างหัวใจกับความถูกต้อง

อรดีกลุ้มใจที่กล่อมลูกชายไม่สำเร็จ ศศินขู่จะขายกิจการทิ้ง ทำให้อรดียิ่งเครียดหนัก ตามติดลูกชาย จนพบว่าอารักษ์นั้นอยู่ใกล้ชิดตะวันตลอดเวลา และคอยส่งเสริมให้ตะวันกลับไปรักปลายฟ้า เธอจึงกลัวว่าทุกอย่างจะเปิดเผย จึงขู่อารักษ์และคิดให้เงินปิดปาก แต่อารักษ์ไม่ยอมรับ เพราะรู้ตัวว่าตนคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน อรดีจึงเล่าความจริงให้ศศินฟัง และจ้างนักเลงไปเล่นงานจนอารักษ์ต้องเข้าโรงพยาบาล

ปลายฟ้าไปเยี่ยมอารักษ์ที่โรงพยาบาล และพบว่าเขาเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์ขอร้องให้ปลายฟ้าช่วยทำให้ตะวันกลับเป็นคนอ่อนโยนเหมือนเดิม และยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้หญิงสาวฟัง แต่เขากลับขอร้องให้เธอเก็บความลับเรื่องเขาเป็นพ่อไว้ เพื่ออนาคตของลูกชาย ปลายฟ้าตรงไปหาตะวัน และขอร้องให้ตะวันไปเยี่ยมอารักษ์บ้าง ตะวันพยายามจะขอความรักจากปลายฟ้า แต่เธอปฏิเสธเพราะไม่อยากทำให้ศศินเสียใจ ตะวันจึงได้ตำหนิตัวเอง อารักษ์จึงพยายามจะหาทางปลอบ แต่ชายหนุ่มกลับพาลว่าเป็นความผิดของอารักษ์ และให้ภัครินทร์ไล่อารักษ์ออกจากงานโดยไม่ยอมฟังคำอ้อนวอนร้องขอของอารักษ์ หนุ่มใหญ่จึงต้องเก็บเสื้อผ้ากลับเชียงใหม่ด้วยความเสียใจ แต่อาการของโรคกำเริบขึ้นระหว่างเดินทางเสียก่อน

ศศินคิดหาวิธีกำจัดตะวันออกจากชีวิตปลายฟ้าได้เด็ดขาด เขาปล่อยข่าวเรื่องอารักษ์เป็นพ่อของตะวันให้หนังสือพิมพ์รู้ จนตะวันสับสนเมื่อเขากลายเป็นคนเนรคุณพ่อซึ่งเขาจำอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มยิ่งเครียดจัดเมื่อแวะไปดูอาการอารักษ์ที่โรงพยาบาล แล้วพบกับแก้วตากับครูชนะที่รีบลงมาจากเชียงใหม่หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมด จากปลายฟ้าที่ติดต่อไปเพื่อหวังให้อารักษ์ได้มีญาติมาดูแล แก้วตาตรงเข้าไปตบหน้าตะวันและด่าว่าจนชายหนุ่มรู้สึกสับสนไปหมด

เกยูร เริ่มทำใจได้กับความรักจึงตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อเมืองนอก เธอมาบอกลาตะวัน แล้วเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟังว่าเธอไม่ใช่คนรักของเขา ตะวันเครียดหนักและสับสน เขารู้ดีว่ามีปลายฟ้าคนเดียวที่จะเป็นคนที่ให้ความจริงกับเขาได้ ตะวันบุกไปที่งานแต่งงานของศศินกับปลายฟ้าเพื่อไปชิงตัวเจ้าสาวในงานแต่งงาน ศศินโกรธจัดคิดจะตามเล่นงานตะวัน แต่กลับถูกสิริกานดาซึ่งเข้ามาในงานด้วยความโกรธแค้นที่ชายหนุ่มคิดจะเขี่ย เธอทิ้ง เธอเปิดเผยสิ่งที่ศศินทำทั้งหมดให้ทุกคนได้รู้ และยิงชายหนุ่มจนบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ก่อนที่เธอจะยอมมอบตัว

ตะวันได้รู้ความจริงจากปลายฟ้าเรื่องที่อารักษ์เป็นพ่อของตน หญิงสาวพาชายหนุ่มไปพัทยาเพื่อสอบถามจากบรรดาเพื่อนเก่าๆ ของอารักษ์ จนชายหนุ่มยอมเชื่อว่าอารักษ์เป็นพ่อที่เลี้ยงดูตนมา ภาพความทรงจำเก่าๆที่หายไปเริ่มชัดเจนอีกครั้ง ตะวันรีบเดินทางกลับกรุงเทพเพื่อไปเยี่ยมอารักษ์ แต่ระหว่างทางด้วยความประมาทรถที่ขับก็เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ

อารักษ์รู้ข่าวลูกชายบาดเจ็บ ก็หนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปดูอาการลูกชาย จนรู้ว่าตะวันปลอดภัย เขาจึงคิดหนีทุกคนกลับเชียงใหม่ ตะวันรู้สึกตัว คนแรกที่เขาถามถึงนั้นก็คืออารักษ์ อรดีรู้สึกสำนึกผิดที่ตกเป็นเครื่องมือของความโลภและเห็นแก่ตัว และถูกศศินหลอกใช้ จึงสารภาพทุกอย่างให้ลูกชายฟังตามจริง ตะวันขอร้องให้ทุกคนช่วยกันตามหาพ่อของเขา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอารักษ์ไปไหน มีเพียงตะวันที่จำสัญญาของตนกับพ่อได้ ว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านอิงดอยด้วยกัน เขาจึงเดินทางไปที่บ้านอิงดอยที่พ่อซื้อไว้ตามคำบอกเล่าของแก้วตา และพบอารักษ์กำลังนอนป่วยหนักอยู่ที่นั่น

ตะวันพาอารักษ์ไปส่งโรงพยาบาล อาการของเขาเข้าขั้นวิกฤติจนต้องผ่าตัดด่วน โอกาสรอดชีวิตมีเพียงห้าสิบเปอร์เซนต์ ตะวันได้แต่สวดมนต์ขอให้พ่อของตนหายดี แล้วในที่สุดการผ่าตัดก็เสร็จสิ้น เพียงแต่รอให้อารักษ์ฟื้นขึ้น หรือจะหลับชั่วนิรันดร์

ระหว่างนั้นชายหนุ่มต้องปลีกตัวเพื่อไปขึ้นคอนเสิร์ตสำคัญที่เตรียมการไว้ ชายหนุ่มจึงถือโอกาสนี้สารภาพความจริงทุกอย่างกับแฟนเพลงด้วยน้ำตา และประกาศก้องว่าเขาภูมิใจที่ได้เกิดมามีพ่อกะเทยอย่างอารักษ์ บทเพลงพระจันทร์สีรุ้งที่เขาแต่งให้ผู้เป็นพ่อระหว่างที่เดินทาง ถูกขับขานขึ้นสดๆ ท่ามกลางกำลังใจของทุกคนในที่นั้นที่ส่งไปช่วยอารักษ์ให้ได้ฟื้นคืนกลับมา อีกครั้ง

แล้วก็ เหมือนมีปาฏิหาริย์ อารักษ์ซึ่งหมอลงความเห็นว่าหมดหวังนั้น กลับเริ่มมีอาการตอบสนอง และลืมตาขึ้น เมื่อลูกชายสุดที่รักเดินทางกลับมาหา แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถจะจำเรื่องราวต่างๆ ได้อีกเลย แต่ถึงแม้ว่าอารักษ์จะเป็นอย่างไร วินาทีนี้ตะวันก็ไม่ยอมที่จะทิ้งพ่อไปอีก เขาเฝ้าคอยดูแล และอยู่กับพ่อที่บ้านอิงดอยแห่งนั้น โดยมีปลายฟ้าซึ่งได้หมั้นหมายกันไว้ แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและช่วยดูแลอารักษ์อย่างมีความสุข

ข้อมูลจาก : thaitv3.com
[Read More...]